หายากยิ่งกว่าตะกรุดครูบาชุ่ม หลายสิบเท่าครับ...!!! // ตะกรุดครูบาสม วัดโป่งกว๋าว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่. หรือที่นักเลงสายเหนือเรียกท่านว่า ครูบาหนังเหนียว!!!    /// ดอกนี้ขนาดจัมโบ้ บิ๊กไซต์ครับ เส้นผ่าศูนย์กลางด้านที่กว้างสุด ประมาณ 1 นิ้ว ครับ..เลี่ยมพลาสติกใช้มาเดิมๆ จากท่านผู้เป็นเจ้าของเดิมของตะกรุดดอกนี้...ไส้ในของตะกรุดทำมาจากโลหะขาปิ่นโต จารอักขระ แล้วพอกด้วยครั่งพุทธาตายพรายที่ติดกับกิ่งทีชี้ไปทิศตะวันออก...///  เป็นตะกรุดที่หายากส์โคตรๆๆๆ หายากส์ยิ่งกว่าตะกรุด ครุบาชุ่ม วังมุย หลายสิบเท่า ครับ...พุทธคุณนั้นชัดเจน  และ มีประสบการณ์สูงมาก ร้อยทั้งร้อยที่เจอมา ก้ไม่เห็จะมีอะไรมากมายไปกว่าคงกระพันชาตรี และ มหาอุดหยุดปืนเท่านั้น เป็นตะกรุดที่โจษขานกันมาช้านาน ไต่ำำ 40 กว่าปีมาแล้ว สำหรับเรื่องราวของตะกรุดครูบาสม แห่งวัดโป่งกว๋าว อ.สะเมิง ท่านเป็นผู้ที่ได้รับสมญานามเทพเจ้าแห่งขุนเขาดอยสะเมิง โดยบารมีแห่งตัวท่านเองโยแท้.... 

    สมัยก่อนหลายท่านที่ได้รับการมอบตะกรุดจากหลวงปู่ เท่าที่ผมเคยได้พูดคุยกับท่านเหล่านั้นบอกเลยว่า พอออกจากวัด ก็ลองยิงตะกรุดกันจะๆเลย บอกได้เลยว่ายิงไม่ออก  อันนี้ผู้ที่เล่ายังมีชีวิตอยู่ครับ ไม่ใช่เรื่องโม้ หรือสร้างนิยายมาขายของ  ..นักเลงสายเหนือกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะกล้าปฏิเสธ ตะกรุดของหลวงปู่ครูบาสม วัดโป่งกว๋าว สะเมิง ไปได้...

    โดยส่วนตัวนั้น ผมเองเมื่อประมาณหลายปีก่อน เคยได้มีโอกาสสนทนากับท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ที่อยู่หมู่บ้าน แม่สลาบเหนือ อ.สะเมิง ท่านเล่าให้ฟังว่า "หลวงปู่ครูบาสม พระคาถาอาคมของท่านขลังมาก ขนาดที่ว่าเสกข้าวก้นบาทให้ไก่วัดกิน ชาวบ้านเคยเอาปืนมายิงไก่วัด ปืนยังยิงไม่ออกเลย เพราะปกติไก่ที่วัดโป่งกว๋าจะเลี้ยงแบบไม่ได้ขังใส่ในกรง ก็เหมือนกับวัดอื่นๆนั่นแหละครับ แต่วัดโป่งกว๋านั้น อยู่ก็ไม่ไกลจากทุ่งนาหรือสวนของชาวบ้านสักเท่าไหร่นัก จะเรียกว่าติดกันเลยก็ว่าได้  พอชาวบ้านเขาทำสวน เช่นปลูกผัก ปลูกไม้ต่างๆ ไก่ของครุบาสม ที่ท่านเลี้ยงไว้ตามลานวัด ก็ออกไปกิเนผักของชาวบ้าน  พอชาวบ้านเห็นดังนั้นก็เกิดบันดาลโทสะ กลับไปเอาปืนมายิงไก่ของวัดโป่งกว๋าว ที่กำลังพากันจิกกินผักอยุ่ ปรากฏว่ายิงยังไงก็ยิงไม่ออกครับ เพราะไก่พวกนัันได้กินข้าวก้นบาตรที่ครูบาสมท่านเสก แล้วโปรยให้ไก่กินทุกวันๆหลังจากการฉันข้าวแล้ว "       .....ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงบัดนี้ ไม่มีชาวบ้านคนไหนเอาปืนไปยิงไก่ของวัดโป่งกว๋าวเลยละครับ นอกจากจะไล่่ให้มันไปดีๆ เพราะเกรง และ นับถือ ศรัทธา ในบารมีของหลวงปู่ครูบาสม นั่นเองครับ.

.....เรื่องนี้ผมไม่ได้คัดลอกมาจากใคร หรือ เอามาจากหนังสือเล่มไหน แต่ได้รู้ และ ได้ยินมากับตัวเองจากการได้พูดคุยกับท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งที่หน้าวัดแม่สลาบเหนือ อ.สะเมิง จริงๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ ต้นปี 53 ที่ผ่านมานี้เอง....

.....เพราะเวลาไปที่ไหนสิ่งหนึ่งที่ผมจะไม่เคยลืม คือการถามไถ่ถึงประวัติ และ ประสบการณ์จากคนในพื้นที่ ที่มีต่อพระเกจิอาจารย์ ที่เป็นที่พึ่งของพวกเขาเหล่านั้น หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ....

   ...และโดยส่วนตัวแล้ว ผมเองเคยทอลองตะกรุดของครูบาสม มาแล้วด้วยกันกับเพื่อนรุ่นน้องด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ซึ่งผลปรากฏออกมาอย่างคำร่ำลือจริงๆ ครับ ไม่ได้อวดอุตริ แต่เป็นการตอกย้ำว่า ของจริง  ยังไงก็ต้องเป็นความจริงครับ ผมกล้าพูดได้เลยว่าตะกรุดครูบาสม แห่ง วัดโป่งกว๋าว อ.สะเมิง เป็นสุดยอดตะกรุดที่มีค่าควรเมือง สมกับเป็นตะกรุดที่ครองแชมป์ ตะกรุดจักรพรรดิ์แห่งขุนเขาดอยสะเมิง อย่างแท้จริง ทุกอย่างถ้าไม่ได้รู้ ได้เห็น และ พิสูจน์มากับตาตัวเอง ผมจะไม่กล้านำเอามาเล่าแน่นอนครับ เพราะนี่ไม่ใช่ของเล่นๆที่จะมากล่าวลอยๆ...การที่จะเอาหลวงปู่มาอ้างอิงเพื่อการพาณิชย์นั้น มันบาปมากโขอยู่ครับ ผมเชื่อว่าในขณะที่ผมพิมพ์ทุกตัวอักษรนี้ ดวงวิญญาณของหลวงปู่ที่ผมสุดจะนับถือ ท่านกำลังดูผมอยู่ครับ!!.. แต่ทุกสิ่งมันเป็นเรื่องราวความจริงที่ผมได้พิสูจน์มาด้วยตัวเองครับ .....

   ทุกวันนี้ผู้ที่ร่วมขบวนการ^.^! ในการทดสอบตะกรุดของหลวงปู่ครูบาสม กับผมก็คือ เพื่อนรุ่นน้องของผมผู้เป็นคนลั่นไกยิงตะกรุดดอกนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่ดีครับ(ก่อนการทดสอบเราได้กราบขอขมา เพื่อขอชมบารมีหลวงปู่แล้วครับ)....

.... เจอกันทีไรก็ไม่เคยลืมเหตุการณ์ในวันนั้น และหลังจากนั้นผมกับเพื่อนรุ่นน้องคนนั้นก็เลิก และไม่เคยคิดจะลองของอีกเลยครับ มันเป็นความโง่ที่อยู่บนความคาใจ ของคนที่อยากรู้ ไม่ได้ลบหลู่หลวงปู่แต่ประการใด แต่อยากนำมาเล่าให้เพื่อนๆสมาชิกฟัง เพราะมันอัดอั้นตันใจมานาน ว่าอยากให้คนอื่นเขาได้รับรู้กับเราบ้างว่าเอ่ยมันมีจริงอยุ่นะ ของแบบนี้..รอมานานมากจนกว่าจะได้ตะกรุดของท่าน ถึงจะนำมาบอกเล่าเพราะเล่าลอยๆมันก็ยังไงอยู่ ในเวลานั้นผมเองยังคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากในการทดลองยิงตะกรุดของครุบาสม เพราะว่ามันไม่ใช่มีแค่ผมที่ลองแบบนี้ คนอื่นๆที่เขาได้รับมาเขาจะลองยิงตะกรุดหลวงปู่กันทั้งนั้น เพราเขาบอกว่าถ้าเป็นของหลวงปู่จริงๆต้องกันปืนได้ มันกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วละครับ เพราะนักเลงรุ่นคุณอา เขาทำแบบนี้กันทั้งนั้น เราก็อยากรู้มากในสมัยนั้น...ก็เลยอดใจไม่ได้ที่จะทำการทดสอบ แถมไอ่เพื่อนรุ่นน้องคนนี้มันก็บ้าบิ่นพอๆกันก็เลยจัดหนักกันเลยครับวันนั้น.....(ยังไงก็ขอให้อ่านแล้ว ฟังหูไว้หูนะครับ อย่าเชื่อผม ถ้าคุณไม่ได้พิสูจน์กับตัวเอง)...ขอบคุณครับ