ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :11,958
๙๙๙ ยันต์พรหมสี่หน้า สาย..,อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง..,(ผืนพิเศษ มีเจิมประสะทั้ง8ทิศ ขอโชว์!!)
***** ส่วนเรื่องความเก่งกล้าสามารถของท่านอาจารย์ฟ้อน ดีสว่างนั้น ขอยกคำพูดของท่านอาจารย์หนู เกสโร มาตอบก้อแล้วกันครับ
ท่านว่า
"ท่านอาจารย์ของท่านนั้นเก่งกว่าขุนแผนเสียอีก" ****
สร้างบูชาครู โดย หลวงพ่อหนู เกสาโร วัดบึงพระอาจารย์ นครนายก
ผ้ายันต์พรหมสี่หน้าของท่าน เพราะเป็นผ้าที่สำเร็จในพิธีไหว้ครูของท่านเท่านั้น หลวงพ่อท่านจะทำพิธีประสะเลือดเพื่อบูชาครูบาอาจารย์ท่านคือ อ.ฟ้อน ดีสว่าง โดยการนำมีดตอกเข้าไปบนเพดานปาก เลือดที่ได้จากพิธีจะนำมาเจิมผ้าพรหม ฉะนั้นจึงถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และเป็นมงคลมากสำหรับลูกศิษย์ที่ได้ไป
เพราะสร้างแต่ละครั้งมีจำนวนไม่มาก และเป็นผ้าที่สำเร็จในพิธีไหว้ครู ครบถ้วนตามวิชาตามตำรา เลือดที่ได้จากกระทำพิธีประสะนั้นถ้านำมาผสมน้ำหมึกแล้วสักเข้าตัวแล้วท่านว่าเหนียวยันกระดูกเลยทีเดียวครับ
หลวงพ่อหนู เกศโร (พระครูเมธีธรรมสาทก) วัดบึงพระอาจารย์ จ.นครนายก มีหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นศิษย์เอกของจอมขมังเวทย์ พ่อฟ้อน ดีสว่าง โดยตรง
คนแถบนครนายก แถบบึงพระอาจารย์ บางน้ำเปรี้ยว นับถือและศรัทธาหลวงปู่หนูมาก ๆ ยามที่ท่านอยู่ ช่วยชีวิตชาวบ้านผู้ที่ถูกงูพิษกัดมานับรายไม่ถ้วน.
วัดบึงพระอาจารย์ในสมัยท่านยังอยู่นั้น แทบจะมีสภาพไม่ต่างจากโรงพยาบาลเลยทีเดียว เนื่องจากในแต่ละวันจะมีผู้ได้รับทุกขเวทนามารอรับเมตตาจากท่านมากมาย
หลวงพ่อหนู ท่านก็ได้สงเคราะห์โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง...ไม่เว้นแม้แต่บรรดาชาวไทยมุสลิมซึ่งมีอยู่มากมายในย่านนั้น ชาวบ้านมักจะไปขอสักข้อมือรูปงูตัวเล็กๆ บอกว่า “กันว่าป้องกันงูได้”
หลวงปู่หนูนั้นท่านเก่งมาก ๆ ขนาดอาจารย์ประคอง ท่านยังบอกกับผมว่า " หลวงปู่หนูเข้มแข็ง เก่งมาก ฉันยังไปหา แต่ตอนนั้นท่านชราภาพมากแล้ว " เก่งไม่เก่ง คิดดู หลวงปู่หนูนังขอผงสมเด็จโต จนเสด็จมาเองได้ โดยนำพานเปล่า รองผ้าขาวสวดมนต์เจริญกัมฐาน จนผงเสด็จมาเองได้ เต็มพาน อัศจรรย์ในจิตมาก ๆ
เรื่องเล่าของหลวงพ่อหนู เกสโร นายดาบตำรวจหวัด เป็นผู้เล่า
ครั้งหนึ่งหลวงพ่อหนู ท่านพูดกับนายดาบหวัดว่า “วิชาอาจารย์ ฟ้อนเนี่ยเป็นวิชาที่สูงที่สุด สูวกว่าวิชาไหน ๆ “ ดาบหวัดบอกว่า จริงหรือครับ” หลวงพ่อบอกว่า “จริงซิ เราเคยนั่งสมาธิไปเจอกับพระอินทร์ แล้วขอให้พระอินทร์เป็นอาจารย์ แต่ก่อนที่จะเป็นอาจารย์ขอถามอะไรสักอย่างได้ไหมครับ พระอินทร์บอกว่า ถามมา หลวงพ่อหนูได้ถามกับพระอินทร์ว่า มีวิชาหรือคาถาใดที่สูงกว่าวิชาของท่าน อ.ฟ้อน ดีสว่าง พระอินทร์ตอบว่า ไม่มีวิชาอาจารย์ฟ้อนสูงที่สุด สูงกว่าวิชาของฉันอีก หลวงพ่อจึงไม่ได้เรียนกับพระอินทร์และลาถอนสมาธิออก” นับตังแต่นั้นมา หลวงพ่อหนูไม่ได้เรียนวิชาของผู้อื่นอีกเลย และต่อมาเมื่อสร้างโบสถ์ที่วัดบึงพระอาจารย์ ตามเสาผนังโบสถ์ หลวงพ่อหนูได้สร้างเป็นรูปเศียรพระอินทร์ ปัจจุบันยังมีให้ดูชมอยู่ จริงไม่จริงแล้วแต่ผู้อ่านครับ ดาบตำรวจหวัด เป็นผู้เล่าให้ฟัง
การประสะโลหิตถือเป็นเอกลักษณ์ของสายวิชานี้โดยเฉพาะและมีลักษณะที่น่าหวาดเสียวยิ่งสำหรับผู้ไม่เคยพบเห็น ท่านอาจารย์ฟ้อนใช้วิธีการดังกล่าวในการประสิทธิ์ประสาทวิทยาคุณของท่านให้แก่สานุศิษย์ทั้งการสักกระหม่อมและการลงเครื่องมงคลต่างๆ ต่อมาเมื่อสิ้นท่านแล้ว หลวงพ่อหนู เกสโร และอาจารย์หมอประยูร จิตตโสภี ศิษย์เอกทั้งสองของท่าน ต่างก็ใช้วิธีนี้ในการสร้างขลังให้เกิดขึ้นตามต้องการดุจเดียวกับผู้เป็นอาจารย์ โดยเหรียญรุ่นแรกของท่านอาจารย์ฟ้อน ที่อาจารย์หมอประยูรสร้างขึ้นในโอกาสครบรอบหนึ่งปีแห่งมรณกรรมของท่าน ทราบว่าผู้สร้างก็ทำการประสิทธิ์อำนาจขลังโดยวิธีประสะโลหิตนี้เช่นกัน หากท่านใดได้ครอบครองหรือเคยพบเจอเหรียญรุ่นนี้ในสภาพเดิมๆ จะสังเกตเห็นรอยเลือดแห้งกรังติดอยู่บนพื้นผิวเหรียญบางเหรียญได้
ด้วยเหตุที่การประสะโลหิตต้องอาศัยใจที่ตั้งมั่นถึงขีดสุดของผู้กระทำ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่แม้ศิษย์ในสายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่างจะมีอยู่มากมาย แต่ก็หาผู้ทำวิชานี้ได้น้อยยิ่งกว่าน้อย โดยภายหลังสิ้นหลวงพ่อหนู ศิษย์ในท่านที่ทำได้ชนิดขลังแท้ไม่แพ้ครูอีกรูปหนึ่งคือ พระครูวิโรจน์ถาวรกิจ หรือหลวงพ่อสง่า ญาณจาโร แห่งวัดเทวารุทธาราม กิ่ง อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
<<< เครดิตข้อมูล จากคุณ Hoonpayon เวป uamulet , คุณเบนนิซากุระ , http://www.amatajinda.com/history_aik.php , thetigerking ทางร้านขอขอบพระคุณท่านมาด้วย ณ ที่นี้ >>> ๙๙๙