ตะกรุดหลวงพ่อโม เนื้อทองแดง ยาว 7 นิ้ว  เป็นตะกรุด เนื้อทองแดงยุคแรกๆที่ทำพร้อมเนื้อทองฝาบาตร ดอกนี้รับรองแท้ 1000 % ประสบการณ์สามารถสอบถามคน ห้วยกรดได้  " ถือว่าเป็นตะกรุดของหลวงพ่อโม ดอกต้นแบบก็ว่าได้ " ที่มาของตะกรุดดอกนี้ ตะกรุดดอกนี้ เป็นของ พระอาจารย์จิต วัดคลองงิ้ว อ.ห้วยกรด จ.ชัยนาท   ( ถามคนห้วยกรดได้ ทุกๆคน ไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่านอาจารย์ จิต วัดคลองงิ้ว )  ซึ่งพระอาจารย์จิต ท่านเป็นลูกหลาน หลวงพ่อเชื้อ วัดบำเพ็ญบุญ หลวงพ่อโม  และท่านอาจารย์จิตท่าน เป็นหนึ่งในศิษย์หลวงพ่อกวย,หลวงพ่อเชื้อ,หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม ,หลวงพ่อจวน หนองสุ่ม ,หลวงพ่อเล็ก บ้านหนอง, ตะกรุดดอกนี้ โยมพ่อ อ.จิต ท่านรับมากับมือหลวงพ่อโม และตะกรุดโทนดอกนี้เคยรักษาชีวิต พระอ.จิต มาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ตอนหลวงพ่อท่านบวชพระใหม่ๆ แทบไม่มีใครใส่บาตรท่าน เนื่องจากก่อนท่านจะบวชนั้น ท่านเป็นนักเลงหัวไม้ มีคนจองจะเอาชีวิตท่านหลายคน มีครั้งหนึ่งขณะที่หลวงพ่อท่านสรงน้ำนั้น ไม่ทราบว่าใครแอบยิงท่าน การยิงในครั้งนั้นถูกท่าน แต่..ลูกปืนไม่ระคายผิว ในตัวท่านมีตะกรุดหลวงพ่อโม ดอกนี้เพียงดอกเดียว เท่านั้น และครั้งที่ 2 อาจารย์จิต ถูกโจรปล้นเอาของมีค่าในกุฎิ โดยโจรมากัน 7 คน รุมท่าน รูปเดียว และพระอาจารย์จิต ท่านถูกมีดแทงหลายเล่ม แต่ ! มีดไม่ระคายผิวแต่อย่างใด ท่านไม่เป็นอะไรเลย  ท่านใส่ตะกรุดหลวงพ่อโม เพียงดอกเดียว โชคดีที่ในขณะเกิดเหตุ พระในวัดได้ยินเสียงดังมากๆ เลยมาช่วยท่านทัน ( เคยถามหลวงพ่อท่านว่าทำไม ? หลวงพ่อจึงไม่สู้ ทั้งๆ ที่ใกล้ตัวท่านมีมีดอยู่ ท่านบอกว่าถ้าท่านสู้พวกนั้นตายอย่างแน่นอนแต่ ! ที่ท่านไม่สู้ เพราะท่านห่มจีวร เป็นพระสงฆ์ไงโยม ) อาจารย์จิตท่าน เคยบอกว่าท่าน นั้นถ้าไม่ได้ บารมีของหลวงพ่อโม แล้วละก็ท่านมรณะไปแล้ว ท่านเคยบอกว่าตะกรุดและมีด หลวงพ่อโม นั้นรักษาชีวิตของท่าน ตั้งแต่ท่านเป็นฆราวาส ยันบวชเป็นพระ ตะกรุดดอกนี้ไม่เคยขาดจากเอวท่านเลย เคียนติดตัวตลอด ตะกรุดดอกนี้ ท่านอาจารย์จิตให้มา ก่อนหลวงพ่อมรณะภาพ หลวงพ่อท่านมีของหลวงพ่อโมหลายชิ้นรวมทั้งพระคาถาของหลวงพ่อโม แต่ ! ที่ท่านให้ข้าพเจ้ามา มีดังนี้ 1.มีดด้ามงาฝักไม้,รูปหลังโบสถ์,ตะกรุด,สีผึ้งปลาตะเพียน,ผ้ายันต์,รุปหล่อทันตัวหลวงพ่อโม,แหวนธงชาติทองเหลื่อง และอีกหลายชิ้น แต่ ! ที่น่าเสียดาย คือท่านอายุสั้นเกินไป ตะกรุดดอกนี้ ถือว่าเป็นตะกรุดทองแดง ยึดเป็นต้นแบบในการดูได้อย่างสบาย ทำให้เราทราบว่าต้องดูอย่างไร ?  *** มีโอกาสไปกราบสังขาร อาจารย์จิต ที่วัดคลองงิ้วมา เลยลงรูปท่านอาจารย์จิต ที่สังขารท่านนอนอยู่ในโลงแก้ว มาให้ได้กราบกันและครั้งหนึ่ง..พระอาจารจิต ท่านเล่าให้ เรื่อง ตะกรุดของหลวงพ่อโม ให้ฟังว่า " โยมลอย หรือเสือลอย ได้มาถูกฆ่าตายโดยคู่อริ ที่แถววัดคลองงิ้ว ต.ห้วยกรด ประมาณปี พ.ศ. 251..กว่า ศพของเสือลอย ไม่มีแผลแม้แต่..นิดเดียว แต่..ที่ร่างของเสือลอย กลับมีลูกปืนเต็มไปหมด ร่างกายถูกทุบด้วยของแข็ง กรอบซ้ำไปหมด เมื่อตำรวจมาพร้อมกับน้องชาย คือโยมเร มาดูศพ พบว่าในตัวโยมลอย มีตะกรุดของหลวงพ่อโม เพียงดอกเดียว ตำรวจที่มาด้วย จึงขออนุญาติน้องเสือลอยคือโยมเร  ขอยิงศพ ว่าปืนจะออกใหม?  "  โยมเร อนุญาติ ปรากฎว่าปืนยิงไม่ออก แต่.ยิงขึ้นฟ้าปืนกลับออก โยมเรจึงนำตะกรุดออกจากเอว แล้วให้ตำรวจ ยิงไปที่ศพ อีกครั้งหนึ่ง ปรากฎว่า ปืนออก  นี่คือคำพูดที่อาจารย์จิต เล่าให้ฟัง ว่า ตะกรุดของหลวงพ่อโม ท่านเก่งด้านมหาอุด เชื่อถือได้เรื่องอาวุธ  "  ลองสอบถามคนรุ่นเก่าแถววัดคลองงิ้วได้ เป็นเรื่องจริง

  ลองสังเกต ดูตะกรุดหลวงพ่อโม ดอกนี้ มีจารอักขระด้านนอก เห็นอักขระบางตัวชัดเจน แต่..ที่ผ่านมาท่านอาจารย์จิต ท่านใช้เคียนเอวแบบเปลี่อยๆ มาโดยตลอด ทำให้โลหะและอักขระที่จารนอก สึกไปมากพอสมควร แต่..ก็ทำให้เราพอจะทราบได้ว่า " ตะกรุดหลวงพ่อโม ส่วนใหญ่จะจารอักขระด้านนอก ,โลหะทั้งทองแดงและฝาบาตร จะเก่าเนื้อหาจัดมากๆ ( ปัจจุบันยากที่จะหาโลหะมาทำปลอมได้ เพราะโลหะเก่าและแข็งจริงๆ ) , ม้วน ๕ รอบ โลหะเนื้อจัดมากๆ , เส้นผ่าศูนย์กลางตะกรุดยุคแรกๆจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 1.7 ซม และเมื่อลองนำมาชั่งน้ำหนักดูหลายสิบดอก แต่ละดอกน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 90-95 กรัม จากข้อมูลนี้สามารถนำไปพิจารณาในการเช่าตะกรุดของหลวงพ่อโมได้ เพราะพิสูจน์แล้ว,การถักเชือก มีทั้งถักเชือกแบบชาวบ้านเช่นใช้เอ็นตกปลา ,เชือกในล่อน สีขาว ดำ เหลือง เขียว แดง เป็นอุปกรณ์ที่ชาวบ้านใช้ในการทำเครื่องมือหาปลาและไม่ถักเชือก เดิมๆออกจากวัดก็มีหรือใช้สายสิน ก็มีให้เห็น และที่สำคัญ ผมได้ทำการคลี่ตะกรุดของหลวงพ่อโม ทั้งทองแดงและทองเหลืองฝาบาตร ออกมาให้กระจ่างแล้ว 6 ดอก สามารถมาดูได้ ว่ายันต์ของหลวงพ่อโม ที่ท่านจารลงที่แผ่นตะกรุดของท่านขั้นต้นตารางเก้ายอดเท่านั้น ท่านจารยันต์บารมี 30 ทัดและต้องเป็นการจารอักขระและตีตาราง แบบนี้เท่านั้น สามารถมาดูได้ที่บ้านผม และข้อในการพิจารณาตะกรุดของหลวงพ่อโม 1.) ตะกรุดหลวงพ่อโม จะมีด้วยกัน 3 ขนาดคือ 5 นิ้ว ตัดจากฝาบาตร 6 นิ้ว ,7 นิ้ว ตัดจากฝาบาตร 9 นิ้ว , 9 นิ้ว ตัดจากฝาบาตร 12 นิ้ว บาตรที่พระสงฆ์ใช้ในการบิณฑบาตร จะมีด้ายกัน 3 ขนาดคือ 6 - 9 - 12  นิ้วเท่านั้น  2.)  ตะกรุดจะมีทั้งจารนอกและไม่จารนอก ( รายละเอียดอยู่ด้านบน ) 3.)  ตะกรุดออกจากวัดเป็นตะกรุดเปลี่อยๆ เกือบ 100 % การถักหุ้มจะเป็นการถักแบบวิถีชาวบ้าน ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ทำมาหากินเช่น เอ็นตกปลา ,เชือกหรือในล่อนในการจับนกหรือหาปลา ,สายสินก็มีให้เห็นบ้างแต่ไม่มาก  4.) ตะกรุดจะมีขนาดโต อยู่ที่ประมาณ 1.5 - 1.8 ซม หนักประมาณ 9 - 9.5 กรัม 5.) ปลายของตะกรุด ที่ม้วน 5 รอบ จะแน่นและแข็งมากๆ ให้ใช้มามากขนาดใหน ยากที่จะบุบได้ง่ายๆ เพราะแข็งมากๆ  ฆ้อนเท่านั้นที่จะทำให้ปลายของตะกรุดบุบได้   " ทำไมนักเล่นรุ่นเก่า จึงอยากได้ตะกรุดเนื้อทองเหลืองฝาบาตร เพราะตัวบาตรและฝาบาตรเป็นอุปกรณ์ที่พระใช้ ในตอนเช้าพระสมัยก่อนจะต้องไปบิณฑบาตร พระสงฆ์จะต้อง  " พินทุบาตรหรือการสวดบาตร ทุกเช้า " และพระที่เก่งๆในสมัยก่อนในขณะที่บิณฑบาตรท่านจะสวดและท่องคาถาขณะเดินบิณฑบาตรเสมอ และ ยิ่งนำมาทำวัตถุมงคลด้วยแล้วรับรอง ทำให้เราไม่อดอยากมีกินมีใช้เสมอ หรือที่คนโบราณชอบพูดว่า " ฝาบาตรนั้น มีดีในตัว "  "