ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :12,861
@@@ แจกทานมหาบารมี บูชาครู..,ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ลำปาง (16/9/58) @@@
***** ขออนุโมทนาสาธุการ..,กับท่านเจ้าภาพใหญ่..,
โดย..,คุณสถิตย์พร โสภาเจริญวัฒนะ สมัณตราเทวี วรลักษณ์กิจ พร้อมครอบครัวและคณะ จำนวน 10,000 บาท ,
คุณเชน เชียงใหม่ และครอบครัว 5,000.- ,
คุณนิวส์ วัดสะแก และครอบครัว 2,000.- *****
<<< รายการแจกทานต่างๆ ดังนี้ >>>
1)..,ผัดไท ร้านดังของเชียงใหม่ 600 จาน
2)..,น้ำแร่เพอร์ร่า จำนวน 120 โหล 1,440 ขวด
3)..,บีอิ้งคละรส จำนวน 14 ลัง 336 ขวด
4)..,อีฟ น้ำา้ม ชาดำเย็น ชามะนาว เก็กฮวย จำนวน 26 ลัง 624 ขวด
5)..,ขนม S&P และอื่นๆ
<<< "ผู้ให้สิ่งประเสริฐ..,ย่อมถึงฐานะอันประเสริฐ" >>>
<<< "เกียรติศัพท์แห่งทาน ย่อมดังกังวาลถึงพรหมโลก" >>>
<<< "บุญของผู้ให้ย่อมเจริญ และย่อมเป็นที่รักของผู้รับเป็นผู้รวย กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด" >>>
"คิดถึงครูครูย่อมอยู่คู่กับศิษย์..,
เป็นกัลยาณมิตรที่ดีมีครูสอน..,
ดังบทกลอนเป็นหลักชัยของศิษย์อันมีครู..,
ศิษย์พึงรู้คุณประจักษ์..,เทอดครูบูชา"
***** เมื่อท่านทั้งหลายต่างเฝ้าหาทรัพย์สมบัติ อดออมกักตุนไว้ โดยคิดเพียงว่า ทรัพย์นี้จะเก็บออมสะสมเพื่ออนาคตภายภาคหน้า ท่านก็จะสุขสบายในชาติปัจจุบัน แต่ถ้าเกิดท่านเสียชีวิตลงกะทันหัน ทรัพย์เหล่านี้ถือว่าสูญเปล่าไม่สามารถนำติดตัวไปใช้ได้
เก็บออมเพื่ออนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่ควรนำทรัพย์เหล่านี้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นคือการทำทาน ซึ่งจะเป็นผลบุญที่ท่านไม่ต้องฝากใดๆสิ่งนี้จะติดตัวท่านข้ามไปทุกภพทุกชาติเพื่อเป็นปัจจัยในมรรคผลนิพพานต่อไป
" สะสมทรัพย์มีความสุขสบายแค่ในชาตินี้ แต่สะสมบุญย่อมมีความสุขในการสร้างกุศลทั้งในชาตินี้และเป็นสุขในอนาคตชาติสืบต่อไป " *****
<<< โดยสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย , ชมรมพระเครื่องมรดกไทย , คณะกรรมการโต็ะเครื่องรางยอดนิยมทุกท่าน , คุณพ่อทวีศักดิ์ - คุณแม่นภาพร วิริยะตลอดกาล และครอบครัว ,
เวปเครื่องรางไทยดอทคอม (จ่าเจี๊ยบ ปากน้ำโพ , จรัล ราชสีห์ , เชน เชียงใหม่ , มล เชือกคาด พร้อมครอบครัวและคณะ) พร้อมสมาชิกเวปทุกท่าน , เวปมลเชือกคาดดอทคอม , คุณมนตรี-เบญจวรรณ-โชติวัฒน์ ตันใจซื่อ และครอบครัว , คุณเบญจวรรณ บุญทิพย์จำปา และครอบครัว , คุณตุ๊ก สองพี่น้อง , คุณจิ๋ว มรดกไทย , คุณป๋อง ตาคลี , คุณเมธี บุญทอง , คุณปู เครื่องราง , คุณ ดรจน์ , คุณเล็ก เอกคำภีร์ , คุณญา ราชบุรี , วราภรณ์ ก๋าเมืองลือ และครอบครัว ฯลฯ >>>
"...บุญกุศลนั้นก็ไม่ใช่อื่นไกล
ก็ได้แก่ทานบารมี ศีลบารมี ภาวนาบารมีนี้แหละ
ทาน ก็รู้อยู่แล้ว คือ การสละ หรือ การละการวาง
ผู้ใดละมาก วางได้มาก ก็เป็นผลานิสงส์มาก
ผู้ใดวางได้น้อย ละได้น้อย ก็มีผลานิสงส์น้อย
ละได้น้อย ก็มีผลานิสงส์น้อย
มัจฉริยะ ความตระหนี่เหนียวแน่นนี้หละ
คือความโลภ ต้องสละเสีย ให้เป็นผู้บริจาค
ก็บริจาคทรัพย์สมบัติวัตถุทั้งหลายเหล่านั้นหละ
ไม่ใช่อื่นไกล แปลว่า ทะนุบำรุงตน
เหมือน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านจะสำเร็จมรรคผล
ท่านก็ได้สร้างบารมีมา คือ ทานบารมีอันนี้
นี่ให้เข้าใจไว้ ทานเป็นเครื่องสะเบียงของเรา
เมื่อเราได้ทำไว้พอแล้ว
เราจะเดินทางไกล เราก็ไม่ต้องกลัวอดกลัวอยาก
กลัวทุกข์กลัวยาก ของเก่าเราได้ทำมาไว้
ถ้าอะไรเราไม่ได้ทำไว้ อยากได้ มันก็ไม่ได้
ถ้าได้ทำไว้แล้ว สร้างไว้แล้ว ไม่อยากได้ มันก็ได้
นี่แหละทานบารมี เหตุนี้ ให้พากันเข้าใจ..."
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ๙๙๙
===================================
<<< คาถาเงินล้าน >>> (คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า)
(นะโม ๓ จบ)
สัมปจิตฉามิ นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะลายันติ
พรหมมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม
มิเตพาหุหะติ
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ
สวาโหม สัมปติจฉามิ
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
(ว่าคาถาทั้งหมด ท่อง ๙จบ)
=================================================
คาถาเงินล้าน (เป็นคาถาของพระราชพรหมยาน หรือ ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ) หลวง พ่อได้คาถาบทเหล่านี้โดยตรงจากองค์สมเด็จฯ(องค์ปฐม)ตั้งแต่ปี 2517 เป็นเวลา 4 ปี จึงจะได้ครบถ้วน ท่านบอกว่า คาถาที่ได้จากกรรมฐาน เขาจะไม่บอกใคร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2527 เวลา 23.59 น. องค์สมเด็จฯ ได้อนุญาตให้ลูกหลาน และพุทธบริษัทใช้ได้เป็นสาธารณะ เพื่อช่วยบรรเทาสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อีกทั้งการก่อสร้างของวัดท่าซุง จะต้องเร่งรัดให้เสร็จทันฉลองวัดในปี 2532 จึงจำเป็นที่จะต้องใช้คาถาเหล่านี้ช่วย เพื่อพุทธบริษัท และลูกหลานของหลวงพ่อ มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น
สัมปจิตฉามิ คาถาสนองกลับ
นาสังสิโม คาถาพระพุทธกัสสป
บทแรก "พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ" .....อันนี้ตัดอุปสรรค ที่ลาภจะมา แต่เขามาบอกว่า มีผลแน่นอน คือว่าแกจะไม่ยอมให้ลูกแกจน พูดง่าย ๆ ก็แล้วกัน พระพุทธเจ้า ก็ทรงยืนยันบอกว่า ให้หมด
บทที่สอง "พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม" .....คาถาบทนี้เป็นคาถาเงินแสนของท่าน
บทที่สาม "มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม" .....บทนี้เป็นคาถาปลุกพระวัดพนัญเชิง
บทที่สี่ "มิเตพาหุหะติ" เป็นคาถาเงินล้าน
บทที่ห้า "พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา
วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม" .....เป็นคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
บทที่หก "สัมปติฉามิ" บทนี้เป็นบทเร่งรัดบทสุดท้าย
บทที่เจ็ด "เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ" ..... พระปัจเจกพุทธเจ้ามาบอกหลวงพ่อ เมื่อ พ.ย.33 เป็นภาษาโบราณแต่เทียบกับภาษาไทย อ่านได้อย่างนี้ เป็นคาถามหาลาภ มีผลยิ่งใหญ่มาก ทั้งหมดนี้ต้องสวด เป็นบทเดียวกัน
ทั้งหมดนี้ต้องสวด เป็นบทเดียวกันบูชาเรื่อยๆ ไป การบูชาถ้าบูชาเฉยๆ มันเป็นเบี้ยต่อไส้
อย่าลืมนะเวลาสวดมนต์แล้วให้สวดคาถานี้ 9 จบเท่าเดิมนะและเวลาภาวนานอนภาวนาก็ได้ ว่าเรื่อยๆ ไปจนกระทั่งหลับไปเลยตื่นขึ้นมาต่อจากกรรมฐาน นอนก็ได้ ใจสบายๆ
นะบางทีเผลอๆ ฉันก็ต้องว่าของฉันเรื่อยๆ ไป คาถาเงินล้านนี่มาให้เมื่อปีฝังลูกนิมิต ท่านบอกว่างานข้างหน้าจะหนักมาก หลังจากนี้เป็นต้นไปเงินจะใช้มากกว่า สมัยที่สร้างโบสถ์อย่าลืมนะ... เวลาว่างๆ นั่งนึกก็ได้เดินไปก็ได้ ไม่ห้ามเลยนะให้มันติดใจอยู่อย่างนั้น
ให้ถือว่าเป็นกรรมฐานไปในตัวเสร็จ เพราะคาถาที่พระพุทธเจ้าบอกทุกบทก่อนจะทำต้องนึกถึงท่านถือว่าเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน
หลวงพ่อวัดท่าซุง เคยเล่าให้ฟังว่า นายแจ่ม เปาเล้ง ภาวนา คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ประเภทภาวนาเป็นล่ำเป็นสัน บอกลูกบอกเมียว่า หลวงพ่อปาน บอกว่าคาถาบทนี้ภาวนาแล้วรวย เพราะฉะนั้น..ข้าจะภาวนา พวกแกมีหน้าที่ส่งข้าวส่งน้ำเท่านั้น อย่างอื่นห้ามยุ่ง แกก็ภาวนาของแกไปเรื่อย ปรากฏว่าวันนั้นไม่รู้ว่าสมาธิทรงตัวหรือเปล่า เทียนแตกเหมือนไฟพะเนียงเลย แตกเปรี๊ยะๆ แต่ก็อยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมงๆ ไม่หมด ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา บ้านของนายแจ่มก็เงินทองไหลมาเทมา ไม่ว่าจะปลูกผักปลูกหญ้าอะไรก็กลายเป็นของดีราคาแพงไปหมด
วันก่อนมีโยมอยู่ท่านหนึ่ง บอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจส่วนตัวกำลังแย่ถึงขนาดต้องอาศัยคนอื่น พยายามปฏิบัติอย่างที่ท่านว่ามาแล้วแต่ไม่เกิดผล ควรจะทำอย่างไรต่อไป อาตมาก็เลยบอกไปว่า ที่ทำแล้วไม่เกิดผลแสดงว่าทำไม่จริง ถ้าทำจริงต้องเห็นผล อย่างเรื่องของคาถาเงินล้าน ถ้าตั้งใจภาวนาจริงๆ ภาวนาทำต่อเนื่องกันได้สัก ๒ เดือนผลจะเกิดทันที เพราะว่าทำมาด้วยตัวเองแล้ว มารู้ทีหลังว่าที่เขาทำแล้วเห็นผลช้า เพราะไปภาวนาแล้วอยากรวย กว่าสมาธิจะทรงตัว ลืมเรื่องอยากไปได้นาน
หากทุกคนสามารถวางกำลังใจไว้ได้ว่า คาถาเงินล้านเป็นของดีที่สุด เหมือนกับสมบัติวิเศษที่พ่อให้มา หน้าที่ของเราก็คือรักษาไว้ด้วยการภาวนา แล้วก็ทำของเราไปเรื่อย จะรวยไม่รวยก็ช่าง..เราจะทำ ถ้าวางกำลังใจแบบนี้ได้ผลจะเกิดเร็ว เขาถามว่าต้องทำมากเท่าไร อาตมาบอกว่าถ้าอยากให้สมาธิทรงตัวจริงๆ ก็เอาวันละ ๑๐๘ จบไปเลย แล้วให้ทำแบบมีคุณภาพไม่ใช่ตั้งใจจ้ำๆ ให้จบๆ ไป ใช้เป็นคำภาวนา จับลมหายใจเข้าออกพร้อมกับภาวนาคาถาไปเลย
ก่อนที่ หลวงพ่อวัดท่าซุง จะได้คาถามาจนครบบท ท่านรับสังฆทานที่ บ้านสายลม กรุงเทพฯ ท่านบอกว่าเดือนไหนได้ถึงสามหมื่นดีใจจนนอนไม่หลับ มีเงินไปให้เจ้าหนี้แล้ว พอได้คาถาเงินแสนมา ปรากฏว่ากฐินปีนั้นได้ยอดแสนขึ้น พอได้คาถาเงินล้านมาปีนั้นก็ขึ้นล้าน อาตมาจำได้ว่าปีสุดท้ายก่อนหลวงพ่อมรณภาพ นับเงินเฉพาะจำหน่ายวัตถุมงคลวันกฐินก็มือหงิกแล้ว