ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :4,426
อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู วัดอินทร์ "ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์"
ดอกนี้ฟอร์มมาตรฐาน ((ทรงจุกน้ำปลานิยมสุด)) ถักสองหูห้อยอยู่ครบ ลงรักเก่า มันส์ แบบเก๋าสุดจี๊ด!! สวยสมบูรณ์ เลี่ยมทองหนาๆครับ ขนาดความยาว 1.8 นิ้ว ส่วนหัวกว้าง 0.9 นิ้ว ส่วนปลาย 0.6 นิ้ว ครับ
"ไม้ครู" เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งประเภทของตะกรุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้นิยมสะสมเครื่องรางของขลัง ไม้ครูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีอยู่ 3 สำนัก คือ "ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กทม." , "ไม้ครู หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม" , "ไม้ครู หลวงปู่จันทร์ วัดวัดนางหนู ลพบุรี" ตามลำดับ แต่ที่นิยมมากที่สุดเป็นยอดไม้ครูอันดับ๑ ของเมืองไทย ก็คือ "ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์" ซึ่งจัดอยู่ในชุดเครื่องรางมงคล ๙ สะท้านแผ่นดิน!! ในอันดับที่ 3 ดังเครื่องรางคำกลอนมงคล ๙ ดังนี้ ,,,
“หมากดี ที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง
ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ
พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง
ราหู คู่วัดศรีษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว
ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน
ก้าสิ่งล้วนป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา
ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพานฯ”
สำหรับตะกรุดไม้ครู หลวงปู่ภูดอกนี้ หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "นิ้วเพชรพระอิศวร"(โปรดสังเกตุขนาด ชื่อเรียกก็บอกอยู่แล้วว่า นิ้วเพชร คือ "นิ้ว" จะไ่ม่ใหญ่ยาว เต็มที่ก็ประมาณ 2 ข้อคุลี ส่วนดอกยาวๆใหญ่ๆ นั้น จะเรียกว่า กระบองท้าวเวสสุวรรณ เพราะกระบองของท่านท้าวเวสสุวรรณนั้นมีขนาดใหญ่ครับ)
ตะกรุดนิ้วเพชรพระอิศวรนี้ เป็นตะกรุดที่หายากมากๆครับ เพราะว่าการสร้างตะกรุดไม้ครูสัก 10 ดอกหรืออาจะมากกว่านั้น ก็จะมี "นิ้วเพชรพระอิศวร" สักหนึ่งดอกซึ่งถือว่าหายากมากๆและเป็นมงคลสูงสุด นิ้วเพชรพระอิศวร จึงได้ขนานนามว่า "ต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น"
วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนที่จะหายาก เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เพื่อจะไปหาไม้ไผ่และจะต้องเป็นไม้ไผ่ที่ถูกฟ้าผ่าล้มปลายชี้ไปทางทิศตะวัน ออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้ และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอจนกว่าโขลงช้างจะผ่านมาพบ แล้วเดินข้ามกอไผ่นั้นทั้งโขลงก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ดังกล่าว ท่านจะต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน การพลีกรรม คือการขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น เมื่อท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ และต้องนำไม้ไผ่ไปจิ้มศพที่กล้าแข็ง กล่าวคือ ต้องเป็นศพที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ให้ได้ถึง 7 ศพ นี่คือไม้ที่ท่าน เตรียมไว้สำหรับจักตอกลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครู จะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ และถ้าท่านตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ ดังนี้มีหัวหมู บายศรี มะพร้าวอ่อน หมากพลู และอื่นๆตามที่ท่านจะสั่ง ที่ขาดไม่ได้คือไม้ไผ่ที่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้พยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้จักตอกที่ท่านเตรียมไว้การทำพิธีลงพระนาม หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน เคยมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดถามท่านว่า หลวงปู่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าทำไม ท่านตอบว่า ท่านรอ"พระนาม"จากเบื้องบน เมื่อได้พระนามจากเบื้องบนมาแล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้พระนาม เข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมไว้อุดด้วยไม้และลงอักขระทับอีกที เป็นอันเสร็จพิธี
ตะกรุดไม้ครูของท่านสามารถบนได้ วิธี บน คือ ทุก วันเสาร์หรือวันอังคารให้นำเอาหมูนอนตอง (หมูสามชั้นต้มพอสุกวางบนใบตอง) วางเลยชายคาบ้านแล้วบนเอาเถิด เทพยดาที่รักษาตัวตะกรุดก็จะออกมา หากสำเร็จดังที่บนไว้ก็ขอให้ทำอย่างที่บนไว้ อุทิศส่วนกุศลให้กับหลวงปู่ภู ให้รุกขเทวดาที่รักษาตัวตะกรุด และผู้ร่วมสร้าง
อิทธิฤทธิ์ของไม้เท้าพ่อครู บางท่านเชื่อว่าหลวงปู่ได้ประจุเทพ คือ เทวดาลงไว้ในไม้นั้น ใช้ เฝ้าบ้านได้ และใช้ป้องกันตัวในเวลาคับขัน บูชาอยู่กับบ้านป้องกันโจรผู้ร้ายคุณไสย และภูตผี ปีศาจ ไม่กล้ากล้ำกรายมารบกวน พุทธคุณครอบจักรวาล
คาถาปลุกไม้พ่อครู โอม ปลุกปลุก ลุกลุก กูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู โอม ปลุกมหาปลุก กูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กูสวาหะ
คาถาบุชา ให้ว่านะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงหลวงปู่ภูแล้วท่องคาถาล้อม ว่าดังนี้ “ ฆะะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ สี่คนเดินหน้า ห้าคนเดินหลัง โอมกะรัง กะรัง ” เดินภาวนาไปเรื่อยๆ ปลอดภัยทุกประการ
ขอบคุณข้อมูล : พี่เชน เชียงใหม่ , พี่มล เชือกคาด ณ ที่นี้ด้วยครับ