+เครื่องรางโชว์เพื่อการศึกษา+
สุดยอดเครื่องรางจากหงสาสู่ดินแดนล้านนา
เครื่องรางที่ได้รับการยอมรับว่า เป็น หนึ่งในสุดยอดแห่งเครื่องรางแดนล้านนา พม่า และ ไทใหญ่
เครื่องรางแมลงภู่ไม้แกะเก่า ยุคต้น ลงรักชาดทองเก่า แบบสุดๆ
ศึกษาค้นคว้าสะสมเครื่องรางแมลงภู่มาร่วมสิบปี
ตัวไม้แกะที่ลงรักชาดทอง ตัวนี้ถือว่า เป็นหนึ่งในตัวที่เก่าจัดๆ ที่สุด
ชาดสีออกส้ม เป็นเอกลักษณ์ของสีชาดของทางไทใหญ่พม่าครับ
ส่วนชาดล้านนานั้นส่วนใหญ่จะออกสีแดงเข้ม
ตัวนี้ได้ยุคต้น สมบูรณ์ ปรอทอยู่ครบครับ
สำหรับประวัติเกี่ยวกับแมลงภู่นั้น ผมเคยได้เขียนไว้ และ ได้รวมรวมค้นคว้าจากหลายแหล่งที่มา
วันนี้ขออนุญาตนำข้อมูลต่างๆมารวมๆ กันกับของท่านอื่นเพื่อเป็นประโยชน์เป็นแนวทางแก่ผู้สนใจศึกษาค้นคว้านะครับ
แมงภู่คำเป็นเครื่องรางของทางไทใหญ่พม่าที่เข้ามาสู่ล้านนา
เครื่อง รางนี้ตามประวัติเคยพบอยู่บนเสลี่ยงพระเจ้าบุเรงนองด้วยเป็นเครื่อง รางที่เขาใช้กันตั้งแต่ระดับกษัตริย์จนถังสามัญชนธรรมดา การสร้างเครื่องรางนี้ต้องหาไม้ดุมล้อเกวียนโบราณที่ทำจากไม้ประดู่แดง
พญา แมงภู่คำ ทางวิชาสายพม่านับถือมากว่า เป็นสัตว์คู่บารมีของ บายินนอง หรือบุเรงนองเป็นเจ้า บัลลังก์ที่บุเรงนองนั่งว่าราชการทั้งสองข้างจะแกะสลัก รูปพญาแมงภู่คำ เฝ้าระวังรักษาอยู่ เป็นบัลลังค์ที่ พ่อครูโป๊ะโป๊ะอ่อง สร้างและบรรจุพญาแมงภู่คำ 8 คู่ หากบุเรงนอง จะไปรบที่ใดจะนั่งบัญชาการ ณ บัลลังก์นี้ จนชนะทั่วทั้งสิบทิศ จึงถือได้ว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ที่ช่วยบุเรงนองรักษาเมืองพม่าไว้ ทางพม่ามีตำนานบันทึกเรื่องราว เกี่ยวกับพญาแมงภู่คำอย่างละเอียดว่า เป็นแมลงมงคลศักดิ์สิทธิ์ ได้รับรัศมีทิพย์โอภาส แห่งพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในครั้งที่ตรัสรู้บรรลุธรรมวิเศษแล้ว พญาแมงภู่คำพากันบินไปยังป่าหิมพานต์ นำเอาดอกกาสลองทิพย์มารองรัตนบัลลังก์ ถวายเป็นพุทธบูชา พระพุทธองค์จึงได้ตรัสเปล่งพุทธวาจาประสิทธิ์พร แก่พญาแมงภู่นั้นว่า “เป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าแมลงมีปีกทั้งหลาย”
พญา แมงภู่คำนี้ นับเป็นเอกทางโชคลาภ เมตตา ส่งเสริมดวงชะตาให้มั่งคั่ง ทั้งทรัพย์สิน ยศศักดิ์ เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้คนทั้งหลาย อีกทั้งยังป้องกันคุณไสยมนต์ดำ และที่สำคัญอีกอย่างคือ หากแม้นว่าผู้หนึ่งผู้ใดคิดร้ายต่อผู้บูชา พญาแมงภู่คำ จะไปทำร้ายบุคคลนั้น ให้ได้รับความเจ็บปวดและหลาบจำ ถ้าปรารถนาสิ่งใด จงอธิษฐานบอกกล่าวเอาเอง จะสมประสงค์ดังที่หวัง
การสร้างเครื่องรางนี้ต้องหาไม้ดุมล้อเกวียนโบราณที่ทำจากไม้ประดู่แดงเก่าตามตำรา มาทำเท่านั้น
"ทำไมต้องใช้ไม้ดุมล้อเกวียน"
"เป็นความเชื่อโบราณที่ว่า ไม้ดุมล้อเกวียนใช้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ผู้บูชาจะได้เจริญก้าวหน้าตลอดไป"
คนทำต้องมีเชื้อเจ้าด้วย ด้านในอุดด้วยปรอท เขย่าดังกิ๊กๆ กว่าได้ทำได้ก็รอกันเป็นปีครับ เก่าตามตำรา
พุทธคุณมีมากหลายอย่างเลย เมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม เมตตาค้าขาย ดีด้านโภคทรัพย์ด้วย
มีพลังด้านคุ้มครอง กันภูตผีปีศาจได้ กันคุณไสยได้ เดินทางก็คุ้มครองให้ปลอดภัยได้ มีรังสีหลายสีมากสลับหมุนเวียนกันไป
ปกติแมลงภู่ตอมดอกไม้ดอกใดพวกแมลงต่างรวมทั้งผึ้งต้องหลบหนีไปเลย
เพราะเขาเป็นใหญ่กว่าหมู่ภมรทั้งหลาย แมงภู่คำสามารถเจาะแก่นไม้แข็งๆได้อย่างสบาย
ครูบาอาจารย์จึงเอาเป็นเคล็ดว่าต่อให้หญิงใจแข็งสักเท่าไรก็มิอาจต้านทานแมงภู่คำนี้ได้
จัดว่าเป็นเครื่องรางที่มีดีครบทุกอย่างจริงๆ สามารถเตือนภัยให้เจ่าของได้ด้วย อาจสั่นหรือลางสังหรณ์บอกก่อนล่วงหน้า
วัตถุมงคลนี้ของทางล้านนา ไทใหญ่ จนไปถึงทางเชียงตุง เค้าเรียกว่า "แมงภู่คำ"
เรื่องตำรานี้ให้ฟังคร่าวๆดังนี้
1.คนแกะต้องเป็นเชื้อเจ้าเท่านั้น
2.แกะได้เฉพาะวันที่กำหนดและในฤกษ์ที่กำหนดเท่านั้น
3.ในการปลุกเสกก็ต้องตามสุตรที่โบราณจารย์กำหนดให้ครบทุกที่คือ
-ปลุกเสกทางสี่แพ่ง(สี่แยก)
-ปลุกเสกท่าน้ำที่มีคนขึ้นลงเยอะๆ
-ปลุกเสกกลางงานปอย(งานอบรมสมโภชน์)
และปิดท้ายด้วย ปลุกเสกในพระอุโบสถ......
และ มีการกำหนดบทที่ต้องสวดในการปลุกเสกครั้งสุดท้ายด้วยก็คือ สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ 3,000 จบ สัมพุทเธอีก 1,000 จบ...จึงเสร็จตามตำรา
คุณวิเศษของแมงภู่คำตามตำรานั้นดีเฉกเช่นเดียวกับเบี้ยแก้เพราะด้านในบรรจุปรอท และปรอทนั้นเป็นปรอทดักจากป่า
แต่ คุณวิเศษที่เพิ่มเติมมานั้นก็คือทางด้านมหาเสน่ห์ เพราะด้านในตัวบรรจุใบมะเขือบ้าซึ่งเชื่อว่าให้คุณทางมหาเสน่ห์ ทางล้านนาโบราณไปถึงทางเชียงตุงเรื่องยาเสน่ห์นั้นต้องมีใบมะเขือบ้าเป็น ส่วนผสมที่ขาดไม่ได้
แมง ภู่คำนั้นเป็นเครื่องรางที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทุกชนชั้นซึ่งบางข้อมูล บอกไว้ว่ามีการค้นพบในกูบหลังช้างของพระเจ้าบุเรงนองเลยทีเดียว...
ข้อมูล ได้บ่งบอกไว้ว่าเชียงตุง บางบ้านเมื่อแรกสร้างเทเสาเค้าจะเอาแมงภู่คำฝังบนหัวเสาทั้ง 4 ทิศเพื่อป้องกันภัยจากสิ่งที่มองไม่เห็นเปรียบดั่งกับมีพยนต์คอยดูแลรักษา บ้านและคนในบ้านให้ปลอดภัย
อีกอย่างหนึ่งก็คือปรอทจะให้คุณทางด้านป้องกันไข้ป่าด้วย หากเขย่าดูก็จะเหมือนเบี้ยแก้จะมีเสียงขลุกๆอยู่ด้านใน.....
ได้ของดีไว้บูชา และ ข้อดีอีกอย่างก็คือไม่มีข้อห้ามใดๆทั้งสิ้นในการบูชาแมงภู่คำ
แมง ภู่นั้นมักตอมของหวานของหอม และถ้าแมงภู่บินไปตอมดอกไหนหมู่ผึ้งหรือแมลงต่างๆต้องหนี ซึ่งถือว่าเป็นใหญ่ และแมงภู่สามารถเจาะแก่นไม้ที่แข็งๆได้ฉันใดอานุภาพของแมงภู่คำเรื่องการ เจาะเข้าไปอยู่ในอกในใจของผู้ที่เราปราถนานั้นย่อมง่ายดายไม่มีอะไรต่อต้าน ได้แม้นว่าจะใจแข็งแค่ไหนก็ตาม และที่สุดยอดคือในตัวจะมีปรอทป่าอยู่ซึ่งนอกจากใช้เรื่องเมตตามหาเสน่ห์แล้ว เรื่องป้องกันตัวจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็นยังยอดเยี่ยมอีกต่างหาก
ผู้ใดมีแมงภู่คำไว้บูชาแล้วให้ตั้งแยกบูชาออกมาจากหิ้งพระ หรือนำบูชาติดตัวไปในที่ต่างๆโดยมีฝอยวิธีการใช้พระยาแมงภู่คำดังนี้
1.หาก สร้างบ้านใหม่ให้เอาแมงภู่ห่อผ้าขาวผ้าแดงขึ้นวางบนยอกหัวเสาในทิศทั้ง สี่ และบูชาด้วยดอกไม้ขาว บอกกล่าวพระยาแมงภู่ว่า”วันนี้ได้สร้างบ้านใหม่ขอยกเอาพระยาแมงภู่ขึ้นเป็น อารักษ์บ้าน สิ่งใดที่จะเป็นภัยแก่ครอบครัวทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ขอพระยาแมงภู่คำได้ป้องกันด้วยและสิ่งใดที่ดีที่เป็นมงคลของจงนำพามาสู่บ้าน เรือนนี้ด้วยเทอญ” แล้วให้หมั่นสวดบูชาถวายดอกไม้ขาว ทุกๆวันขึ้น 15 ค่ำ นั้นเทอญจักมีแต่ความจำเริญวุฒิทุกประการแล
2.หากว่า จะไปค้าไปขายเดินท่าเดินทางต่างถิ่นต่างแดน ให้บูชาพระยาแมงภู่ด้วยของหอม(เช่นน้ำอบน้ำปรุง)ให้ สวดคาถา 7 รอบ แล้วอธิษฐานว่า “ข้าฯไปไหนขอพระยาแมงภู่คำตัวกล้านี้ ไปด้วย ไปช่วยค้าไปช่วยขาย ไปค้าได้เงินเดินทางก็ให้ได้ทองนะพ่อนะ” ว่า 3 จบ แล้วออกเดินทางเถิด จัดมีแต่คนนำโชคลาภมาให้เป็นที่รักของคนทั้งหลายแล
3.หาก มีร้านค้าให้ตั้งพานบูชาเอาแมงภู่คำใส่ลงไว้ ให้บูชาด้วยดอกไม้ขาว และถวายน้ำผึ้งแท้ สัก 1 แก้วเล็กๆวางบนพาน แล้วให้ว่าคาถาบูชา วันละ 9 จบเวลาเปิดร้าน แล้วว่า “วันนี้ข้าฯขอเลี้ยงพระยาแมงภู่คำตัวกล้า อันสถิตอยู่ที่นี้ด้วยน้ำผึ้งอันหอมหวาน เมื่อพ่ออิ่มแล้วก็ช่วยข้าฯให้มั่งมี พาเอาเงินเอาทองมาสู่ตัวข้าฯด้วยเทอญ”แล้วจึงเอาแมงภู่ลงแช่น้ำ สวดคาถาบูชา 1 จบแล้วเอาน้ำนั้นประพรมของที่ขายนั้นเทอญ จักขายสิ่งใดก็ขายดี(ควรเปลี่ยนน้ำผึ้งทุกวัน)
4.หาก จักเดินทางเข้าป่าให้สาธยายพระมนต์ 3 จบแล้วเขย่าแมงภู่คำ แล้วบอกว่า “ไข้ป่าอย่ามี ผีอย่าใกล้ตัวข้าฯ สวาหะ สวาหายยะ” เดินทางไปเถิดภัยไม่มีไข้ป่าก็ไม่เป็นแล
5.หาก จักให้เป็นมหาเสน่ห์แก่หญิงหรือชายใด ให้ใส่ชื่อผู้นั้นลงไปเมื่อสวดคาถา ในท่อนท้ายคือ ....ให้.....อี/ไอ้(ชื่อเขา)....มาเป็นข้าใช้ต๋นกู ติดกูพระยาแมงภู่คำ แต้เนอ มาเนอ เออ.....อี/ไอ้(ชื่อเขา).....รัก กู อมสวาหุมติ๊ดๆ.....แล้วเข้าไปหาเถิดท่านไม่เมตตารักไคร่อยู่ไม่ได้เลยแล.
6.หาก จักให้พระยาแมงภู่รักษาอารักษ์ในอาณาเขตใดให้เอาพระยาแมงภู่ลงใส่ในขัน น้ำแล้วสวดคาถาบูชา 3 จบ แล้วว่า “น้ำนี้ตกบนแผ่นดินใดขอพ่อเจ้าพระแมงภู่คำผู้เป็นใหญ่จงรักษาอาณาเขตแดนนั้น เทอญ สัตว์ร้ายอย่าเข้าได้ คนร้ายอย่าเข้าได้ ภัยร้ายมนต์ดำท่านทำมาอย่าเข้าได้ กันเน่อพ่อกัน ต่อยตีแตกพ่ายทุกประการนะพ่อนะ สัพพะชัยยะ นะกันนะ สวาหะเถ๊ก” แล้วเอาน้ำมนต์นั้นพรมให้ทั่วบริเวณที่ต้องการให้พระยาแมงภู่รักษา จะอยู่เย็นเป็นสุขยิ่งแล ภัยใดๆมิสามารถกล้ำกลายได้เลย
7.หากอยาก ให้เป็นมหาอำนาจ ให้สวดคาถาบูชา 7 จบ แล้วให้หลับตามโนภาพว่ามีพระยาแมงภู่คำบินขนาบข้างทั้งสอง แล้ว ฮำเสียง ” ฮึงๆๆ” เหมือนเสียงแมงบิน สัก 3 ครั้ง (จะมีอาการขนพองสยองเกล้า)แล้วอธิษฐานว่า “ข้าไปไหนขอพระยาแมงภู่คำไปด้วย ขอพ่อมาเป็นเดชเดชะแก่ข้าฯนี้ด้วยเทอญ” จึงไปเถิด จักจำเริญด้วยเดชเดชะ มีฤทธี ท้าวพระยาเมตตารักใคร่ ผู้คนร่ำลือสรรเสริญเรานักแล
8.หาก จักให้เป็นมหานิยมแก่ฝูงชนาชนทั้งหลาย ให้พกพระยาแมงภู่นี้ติดตัว แล้วให้สวดคาถาบูชา 3 จบ แล้วให้เป่าลงที่มือทั้งสอง แล้วเอาลูบหน้า 3 ครั้งเถิด(ลูบขึ้นเท่านั้น)จักเกิดเป็นราศีแก่ผู้บูชานั้นแล
9.หาก โดนลมเพลมพัดให้เอาพระยาแมงภู่ลงใส่ขันน้ำ อาราธนาบุชาครุบาอาจารย์และพระยาแมงภู่คำได้ทำน้ำนี้เป้นน้ำมนต์เอารดเอาอาบ เอากินเถิดจักหายได้แล
....การใช้อย่างอื่นตามแต่ปัญญาของท่านผู้ครอบครองเอาเถิดใช้ได้พันช่องวิเศษนักแล......