ราหูกะลาตาเดียว พระอาจารย์กฤษดา  วัดปงสนุกเหนือ ผู้สืบทอดตำราราหูกะลาตาเดียวจากครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนีครูบาโน (ครูบาเจ้าอโนชัยธรรมจินดาภิกขุ)หรือครูบาโนแห่งวัดปงสนุกลำปาง เคยมีกิตตศัพท์เช่นเดียวกับพระมหาป่าวัดไหล่หิน (อ.เกาะคา) คือสดับเสียงนกหนู จับอสรพิษมดแมงที่มีพิษได้โดยอสรพิษดังกล่าวไม่สามารถตีต่อย ทั้งยังเป็นนักก่อสร้างมีศิลปะลวดลายการวาดรูปชาดกต่างๆ แผ่นตุง เป็นต้นตำหรับคาถาต่างๆ ครูบาโนเคยบันทึกเรื่องราวต่างๆ อันเป็นประโยชน์ทางประวัติศาสตร์มากมาย นับแต่สมัยเจ้าหลวงวรญาณรงสีราชธรรม ต่อสมัยเจ้าหลวงนรนันทชัยและเจ้าหลวงบุญวาทย์วงศ์มานิต เคยคิดสละวัดเพื่อออกธุดงค์บำเพ็ญพรตในป่า แต่เจ้าหลวงแต่ละสมัยได้ติดตามขออาราธนาไว้ ท่านเป็นคนบ้านพะเยาเก่า (บ้านปงสนุกในปัจจุบัน) โดยกำเนิด ได้บูรณะวัดเก่าที่ร้างในสมัยของท่านเช่น วัดพระแก้วตอนเต้า วัดพระเจ้าทันใจ บูรณะวัดป่าตันกุมเมือง สร้างเจดีย์พระธาตุม่อนน้อย เจดีย์วัดอะโขเพณี วัดเมืองงาว ซุ้มประตูเก่าวัดพระธาตุเสด็จ และวัดต่างๆ อีกมากมาย ครูเดิมของครูบาโน ปรากฏในคำก้านเวร คำถวายทาน มีพระมหาป่าเมืองแปงรูปหนึ่ง ครูบาโนมีศิลปะลวดลายสร้างคัมภีร์ไว้มาก เป็นพระเถรผู้แตกฉาน สอบบาลี และแต่งตำรา นามศัพท์ โลกัปปภาษาสนธิ นามศัพท์กรรมวาจาศัพท์เครื่องบวชปาฏิโมกข์ เป็นเจ้าอาวาสวัดปงสนุก เป็นเจ้าคณะสงฆ์นครลำปางรูปแรก ยังมีกวีสำคัญที่ครูบาโนแต่งไว้ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้หลายตอน เช่น คนใจบาปจะเป็นนาย น้ำดินไฟขายเอาค่า เป็นต้นครูบาโนท่านเป็นอาจาย์ครูบาเจ้านันตา นันโท เข้าใจว่าท่านคงถ่ายทอดเกี่ยวกับการสร้างกะลาราหูให้แก่ครูบานันตาพระอาจารย์ฯได้กล่าวไว้ัว่า ท่านถ่ายทอดวิชาหลายอย่างให้ครูบานันตา และครูบานันตาเองท่านก็เก่งหลายอย่าง เป็นช่างศิลปะด้วย คนสมัยโบราณนิยมที่จะลอกปั๊บ (ตำรากระดาษสา) ของครูบาอาจารย์ไว้ ซึ่งผมได้มีโอกาสเห็นปั๊บและก็ใบลานธรรมที่มีการลงชื่อว่าครูบานันนาไว้ และปั๊บได้มีการลงรักดำไว้....จริงๆ แล้วการสร้างกะลาราหูนั้น มีครูบาทางเหนือสร้างกันหลายท่านเหลือเกิน คงคล้ายๆ กับยันต์หนีบ ผ้ายันต์มาเสพนาง หรือเครื่องรางอื่นๆ