คตไม้สักลูกนี้มีถักหุ้มเชือกลงรักมาเดิม รอยด้านบนผมเป็นผู้ถากพิสูจน์ดูเองว่าเป็นเนื้อไม้จริงหรือไม่ พบว่าเป็นไม้สักจริงมีความแข็ง มีน้ำหนัก

ถ้าพูดถึง คตไม้สักแล้วนั้น ผู้นิยมของขลังจะนึกถึงลูกไม้กลมๆ ซึ่งเป็นความกลมที่เกิดจากธรรมชาติไม่ได้กลึงหรือแต่งมา เป็นของขลังหายากซึ่งมักจะพบโดยบังเอิญขณะตัดไม้ หรือ กลึงไม้ จะพบในกลางลำต้น มีลักษณะเป็นแก่นแข็ง หรือ เป็นใจไม้

แต่ทุกวันนี้ ไม้กลายเป็นหิน หรือคตไม้สัก เท่าที่สังเกตดูจากร้านขาย และจากผู้ใช้รัตนชาติ ยังเรียกกันค่อนข้าง จะสับสนสักหน่อย และมักจะเข้าใจกันว่าเป็นชนิดเดียวกัน ซึ่งความจริงแล้ว ไม่ใช่ ของอย่างเดียวกัน หากแต่มีลักษณะ อะไรต่างๆ คล้ายคลึงกันเท่านั้น

เช่น "ไม้กลายเป็นหิน"จะพบที่ไหนก็ตามแต่ ตั้งชื่อเรียก กันว่า "คตไม้สัก" หรือที่จริงก็คือ "โคตรไม้สัก" เรียกกันไป เรียกกันมาก็กลายเป็นคตไม้สัก เพราะเหตุที่เนื้อแร่ เข้าไปแทนที่ในเนื้อไม้ ซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นเนื้อเดิมของต้นสัก และมีลาย หรือร่องรอยของต้นสัก คงเหลืออยู่ ชาวบ้านที่พบจึงเรียกกันว่า คตไม้สัก ซึ่งจริงแล้วไม้กลายเป็นหินไม่จำเป็นว่าจะเกิดแต่เนื้อไม้สักอย่างเดียว ไม้อย่างอื่นก็มี

ต่อมามีแร่ชนิดหนึ่งมีสีเหลืองน้ำตาล และน้ำตาลเป็นเสี้ยนๆ ส่งเข้ามาขายในเมืองไทย มาจากอเมริกาใต้ หรือประเทศอินเดีย ชื่อ"แก้วตาเสือ" หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ไทเกอร์อาย (Tiger's Eye) ก็มาเรียกกันว่า เป็นคตไม้สักอีก จริงๆ ไม่ใช่เป็นแร่ ที่เกิดขึ้นโดยซิลิกาเข้าไปแทนที่บางส่วน หรือแทนที่ทั้งหมดในเนื้อแร่ของแร่โครซิโดไลท์

ฉนั้นผมขอสรุปง่ายว่า คตไม้สักที่เป็นของขลัง คือ เกิดในกลางต้นไม้สักมีลักษณะทรงกลม
ส่วนไม้กลายเป็นหินและไทเกอร์อายเป็นประเภทแร่ไม่ใช่คตไม้สัก

ภาคประสบการณ์สมัยวัยรุ่น เคยเอาของพ่อมาพกใช้ลูกหนึ่ง ถูกต่อยที่ปากแต่เห็นกับตาว่ามือคนชกเด้งกลับไปกระแทกหน้าตัวเองจนล้มเหมือนชกยางรถยนต์ ส่วนผมคนโดนต่อยก็ยังรู้สึก งงๆ เจ็บเหมือนกันแบบชาๆ (เรื่องเล่าเป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัวที่พบเจอมา ไม่ได้มีภาพบันทึกหรือหลักฐานโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ)

>>> เขียนโดย เชน เชียงใหม่ และ ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก บทความของพลอยประดับตะกูลควอตซ์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ