(ตะกรุดหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง)
สภาพสวย และสมบูรณ์ มากครับ ดอกนี้
อภินิหารหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง
เรื่องเล่าเรื่องแรกคือ ตอนศิษย์ผู้ไม่เหยียบรอยเท้าอาจารย์
คนเฒ่าคนเเก่ เเละชาวบ้านที่อยู่ในละเเวกวัดสะพานสูงได้เล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงปู่กลิ่นท่านเป็นผู้ที่มีความกตัญญู เเละนอบน้อมต่อหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเป็นอาจารย์ยิ่งนัก จนมีชาวบ้านเล่าขานกันมาช้านานว่า หลวงปู่กลิ่นท่านไม่เคยเหยียบรอยเท้าหลวงปู่เอี่ยม มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าช่วงเวลาทำวัตรเช้า
และทำวัตรเย็น พระเเละเณรจะต้องเดินไปทำวัตรที่โบสถ์ หลวงปู่เอี่ยมจะเดินนำหน้า หลวงปู่กลิ่นจะเดินตามหลัง ท่านจะไม่เหยียบรอยเท้าของหลวงปู่เอี่ยมผู้ซึ่งเป็นอาจารย์เป็นอันขาด ท่านจะเดินเยื้องไปทางซ้ายหรือขวา หรือเวลาท่านจะขึ้นศาลาก็ตามที ท่านจะปฏิบัติเช่นนี้ตลอด ด้วยความกตัญญูกตเวทีของหลวงปู่กลิ่นที่มีต่ออาจารย์
ทำให้ชาวบ้านไม่ว่าไกลหรือใกล้ ต่างให้ความเคารพ และศรัทธาหลวงปู่กลิ่นเป็นจำนวนมาก จนชาวบ้านเรียกหลวงปู่กลิ่นว่า “หลวงปู่เล็ก” เเละเรียกหลวงปู่เอี่ยมว่า “หลวงปู่ใหญ่” หลวงปู่กลิ่นท่านเป็นผู้มักน้อย และรักสันโดษ เเม้ในยามที่ท่านมรณภาพ ในย่ามของท่านมีเพียงกระดาษอยู่เเผ่นเดียวเขียนว่า “ของทุกอย่างไม่ใช่ของเรา”
ส่วนในด้านวิชาอาคม ท่านไม่น้อยหน้าใคร เช่น วิชากระสุนคด คือการยิงกระสุนให้โค้งถูกอะไรก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเห็นสิ่งๆนั้น ชาวบ้านละเเวกวัดสะพานสูงรู้ซึ้งดี โดยเฉพาะพวกขี้เมาที่ชอบมาเอะอะโวยวายบริเวณวัด มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนมาทำบุญในวัดเป็นจำนวนมาก
เมื่อทำบุญเสร็จก็เเยกย้ายกันกลับบ้าน คงเหลือเเต่คนเฒ่าคนเเก่ ที่ส่วนมากมาสวดมนต์กันในศาลา ตกค่ำทุกคนก็จะสวดมนต์ เเต่วันนั้นโอกาสดี หลวงปู่กลิ่นขึ้นมาสวดมนต์เเละสนทนาธรรมด้วย ในขณะที่สวดมนต์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องรำทำเพลงของพวกขี้เมา อยู่ข้างสะพานสร้างความรำคาญอย่างมาก หลวงปู่กลิ่นท่านโกรธมาก
ใช้ให้ลูกศิษย์นำคันกระสุนมา เมื่อได้คันกระสุนมา ท่านก็ยิงกระสุนไปที่ต้นมะขามหน้าศาลา ซึ่งอยู่ห่างจากกลุ่มขี้เมามาก เมื่อยิงไปไม่นานเสียงขี้เมาก็เงียบหายไป สักพักกลับมีเสียงร้องครวญครางของพวกขี้เมาตามมา ไม่ช้าเสียงก็เงียบหายไปในที่สุด
หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง ใช้วิชา"กระสุนคด"กำราบพวกพ่อค้าจ่อยิงสัตว์แต่ไม่โดนอย่างอัศจรรย์! เจอสวนกลับ เจ็บปวดร้องครวญคราง อย่างเวทนา!!
อภินิหารหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง
เรื่องเล่าเรื่องแรกคือ ตอนศิษย์ผู้ไม่เหยียบรอยเท้าอาจารย์
คนเฒ่าคนเเก่ เเละชาวบ้านที่อยู่ในละเเวกวัดสะพานสูงได้เล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงปู่กลิ่นท่านเป็นผู้ที่มีความกตัญญู เเละนอบน้อมต่อหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเป็นอาจารย์ยิ่งนัก จนมีชาวบ้านเล่าขานกันมาช้านานว่า หลวงปู่กลิ่นท่านไม่เคยเหยียบรอยเท้าหลวงปู่เอี่ยม มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าช่วงเวลาทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น พระเเละเณรจะต้องเดินไปทำวัตรที่โบสถ์ หลวงปู่เอี่ยมจะเดินนำหน้า หลวงปู่กลิ่นจะเดินตามหลัง ท่านจะไม่เหยียบรอยเท้าของหลวงปู่เอี่ยมผู้ซึ่งเป็นอาจารย์เป็นอันขาด ท่านจะเดินเยื้องไปทางซ้ายหรือขวา หรือเวลาท่านจะขึ้นศาลาก็ตามที ท่านจะปฏิบัติเช่นนี้ตลอด ด้วยความกตัญญูกตเวทีของหลวงปู่กลิ่นที่มีต่ออาจารย์
ทำให้ชาวบ้านไม่ว่าไกลหรือใกล้ ต่างให้ความเคารพ และศรัทธาหลวงปู่กลิ่นเป็นจำนวนมาก จนชาวบ้านเรียกหลวงปู่กลิ่นว่า “หลวงปู่เล็ก” เเละเรียกหลวงปู่เอี่ยมว่า “หลวงปู่ใหญ่” หลวงปู่กลิ่นท่านเป็นผู้มักน้อย และรักสันโดษ เเม้ในยามที่ท่านมรณภาพ ในย่ามของท่านมีเพียงกระดาษอยู่เเผ่นเดียวเขียนว่า “ของทุกอย่างไม่ใช่ของเรา”
ส่วนในด้านวิชาอาคม ท่านไม่น้อยหน้าใคร เช่น วิชากระสุนคด คือการยิงกระสุนให้โค้งถูกอะไรก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเห็นสิ่งๆนั้น ชาวบ้านละเเวกวัดสะพานสูงรู้ซึ้งดี โดยเฉพาะพวกขี้เมาที่ชอบมาเอะอะโวยวายบริเวณวัด มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนมาทำบุญในวัดเป็นจำนวนมาก
เมื่อทำบุญเสร็จก็เเยกย้ายกันกลับบ้าน คงเหลือเเต่คนเฒ่าคนเเก่ ที่ส่วนมากมาสวดมนต์กันในศาลา ตกค่ำทุกคนก็จะสวดมนต์ เเต่วันนั้นโอกาสดี หลวงปู่กลิ่นขึ้นมาสวดมนต์เเละสนทนาธรรมด้วย ในขณะที่สวดมนต์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องรำทำเพลงของพวกขี้เมา อยู่ข้างสะพานสร้างความรำคาญอย่างมาก หลวงปู่กลิ่นท่านโกรธมาก
ใช้ให้ลูกศิษย์นำคันกระสุนมา เมื่อได้คันกระสุนมา ท่านก็ยิงกระสุนไปที่ต้นมะขามหน้าศาลา ซึ่งอยู่ห่างจากกลุ่มขี้เมามาก เมื่อยิงไปไม่นานเสียงขี้เมาก็เงียบหายไป สักพักกลับมีเสียงร้องครวญครางของพวกขี้เมาตามมา ไม่ช้าเสียงก็เงียบหายไปในที่สุด
อีกเรื่องเล่าคือหลวงปู่กลิ่น ใช้คันกระสุนยิงเป็ด แต่กลับโดนคน
ในสมัยก่อนในคลองพระอุดมเป็นสถานที่ร่มรื่น มีสัตว์น้อยใหญ่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเเละมีนกนานาชนิดโดยเฉพาะในวัดสะพานสูง ผู้คนมักจะมาพักผ่อนจากการทำนาหรือค้าขาย อยู่มาวันหนึ่ง มีกลุ่มชายกลุ่มหนึ่งประมาณ 5คน เป็นฝรั่ง 3 คน
คนไทยแต่นับถือศาสนาอื่นอีก 2 คน เดินเเบกกระสอบพะรุงพะรังเข้ามาในวัด ในกระสอบมีนกชนิดต่างๆเต็มกระสอบ เมื่อทุกคนเห็นต่างวิ่งไปบอกหลวงปู่ เมื่อหลวงปู่กลิ่นทราบก็กล่าวว่านกทุกตัวเขาถึงฆาตเเล้ว เเต่มีอยู่ตัวนึงยังไม่ถึงฆาต
หลวงปู่กลิ่นจึงหยิบคันกระสุนเดินไปที่คนกลุ่มนั้น หลวงปู่ถามว่ามาจากไหน ถามเท่าไหร่ คนกลุ่มนั้นก็ไม่สนใจ หลวงปู่จึงบอกว่าขอเเลกนกตัวนึงในกระสอบกับอะไรก็ได้ ได้หรือไม่ ฝรั่งคนนึงได้ส่งภาษาผ่านคนไทยกลุ่มนั้นว่า ได้
เเต่ขอเเลกกับไก่ในวัด 5 ตัวถึงจะได้นะ หลวงปู่ตอบตกลงทันที หลวงปู่กลิ่นให้คนกลุ่มนั้นเทกระสอบออกมาปรากฏว่ามีนกเป็ดน้ำตัวหนึ่งรอด กระเสือกกระสนออกมาจากกองซากนก เเล้ววิ่งไปลอยคอในน้ำ
จากนั้นหลวงปู่กลิ่นจึงบอกว่า ฉันไม่เเลกเเล้วนกตายทั้งนั้น กลุ่มคนพวกนั้นเมื่อได้ยินก็โกรธอย่างมาก เเสดงความไม่พอใจโดยการหยิบปืนขึ้นมายิงเป็ดที่ลอยคอในน้ำ เเต่ยิงเท่าไหร่ก็ยิงไม่ถูก
เเถมเจ้าเป็ดก็ยังอยู่นิ่งๆอีกต่างหากเนื่องจากอยู่ในกระสอบเป็นเวลานาน จากนั้นหลวงปู่กลิ่นจึงพูดว่า ปืนฝรั่งนี่ไม่ดีเลย ยิงตรงๆก็ยิงไม่ถูก สู้คันกระสุนของฉันไม่ได้ ยิงเป็ดเเต่โดนคน ทันทีที่พูดจบหลวงปู่กลิ่นคว้าคันกระสุนส่องไปที่เป็ดพร้อมยิงในทันที
เเต่กระสุนไม่โดนเป็ดเเต่กลับมาโดนกลุ่มคนทั้ง 5 ..คนกลุ่มนี้โดยกระสุนก็ร้องครวญคราง ดูเเล้วน่าเวทนายิ่งนัก หลวงปู่จึงถามว่าเจ็บไหม จากนั้นหลวงปู่จึงเดินกลับกุฏิ เช้าวันรุ่งขึ้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งนับสิบคนขนอาหารคาวหวานพายเรือมาขอพบหลวงปู่
ในจำนวนนี้มีกลุ่มคนทั้งห้าคนที่โดนกระสุนคดหลวงปู่อยู่ด้วย ท่านจึงถามว่าหายเจ็บรึยัง หนึ่งในจำนวนนั้นบอกว่าหายเเล้ว หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา คนกลุ่มนี้ก็มาที่วัดสะพานสูงอีกหลายต่อหลายครั้ง..