ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :13,927
$$$$$ พยัคฆ์ฝั่งธน!!! เสือ หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาศ รุ่น3 ปี 2508 $$$$$
สวยแชมป์ มันส์ลึกปึ๊ก!!!
หาสวยยากมากๆครับ สร้างจำนวน 2500 องค์
***** หายากกว่ารุ่น6 (15 เท่า) รุ่น6 สร้าง 37,500 องค์ ครับ.., *****
(Cr..,หนังสือเครื่องรางของขลังขมังเวทย์ โดย ป๋าพยัพ คำพันธุ์ , คุณธนโชติ นาทะสัน , กุนซือเจต บางโคล่)
=====================================
จุดเด่นของเสือ หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาสให้ดูการปลุกเสกเสือของท่าน ท่านจะปลุกเสกเดี่ยวพร้อมกับร่างทรง หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยทุกครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือ ท่านจะปลุกเสกจนเสือทุกองค์เคลื่อนไหวได้ กระโดดได้ เป็นอันเสร็จพิธี
ในสมัยโบราณมักจะปลุกเสกกันแบบนี้ แต่หลังยุค พ.ศ.2500 จะไม่เคยได้ยินว่ามีเกจิท่านใดตั้งใจปลุกเสกเครื่องรางของขลังแบบนี้อีก การปลุกเสกแบบนี้ใช้เวลานานและต้องเก่งจริงๆถึงจะทำได้
*****หมายเหตุ*****
หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส ได้สร้างเสือตามสูตรของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย แต่หลวงพ่อวงษ์ท่านไม่ทันหลวงพ่อปานนะครับ หลวงพ่อปาน ท่านมรณภาพตั้งแต่ในรัชกาลที่5 นานมากแล้ว เสือหลวงพ่อปาน แท้ๆเล่นหากันหลักแสน หลักล้าน
แต่หลวงพ่อวงษ์ได้เรียนรู้วิธีการสร้างเสือตามสูตรหลวงพ่อปานทางนิมิตและจะนิมนต์ วิญญาณหลวงพ่อปานให้มาลงทรงร่วมปลุกเสกเสือทุกรุ่นถึงขนาด เซียนพระรุ่นก่อนได้บัญญัติไว้ว่า
"เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น เบี้ยแก้หลวงปู่รอด ตะกรุดหลวงปู่กลิ่น ราหูหลวงพ่อน้อย"แต่เค้าว่า
"ถ้าหาหนุมานหลวงพ่อสุ่นไม่ได้ ก็เอาลิงหลวงพ่อดิ่งแทน ถ้าหาเบี้ยหลวงปู่รอดไม่ได้ ก็เอาเบี้ยหลวงปู่บุญได้ และเค้าก็ว่ามาอีกว่า ถ้าหาเสือหลวงพ่อปานไม่ได้ ก็ให้ใช้เสือหลวงพ่อวงษ์"
==========================================
ผมไม่มีเสือ กะเขาหรอกครับแต่อยากเล่าเรื่องเสือและกิตติคุณของท่านที่ได้รับฟังจากคุณยายท่านหนึ่งที่ผมเจอโดยบังเอิญที่ รพ.เจริญกรุงฯ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมไปพบแพทย์ที่ รพ. ดังกล่าวน่ะแหละครับ บังเอิญคุณยายคนนี้ยิ้มด้วยไมตรีที่ดี จึงเอ่ยปากถามไปว่า
ผม : คุณยายป่วยด้วยเป็นอะไรครับ ?
คุณยาย : ตาอักเสบน่ะลูก แล้วลูกล่ะเป็นอะไรมา ?
ผม : ผมตาอักเสบครับคุณยาย แล้วคุณยายเดินทางมาจากไหนไกลมั้ยครับ ?
คุณยาย : อยู่แถววัดปริวาส น่ะลูก
ผม : อ่า .... วัดปริวาส อย่างนี้คุณยายก้อรู้จักหลวงปู่วงศ์น่ะสิครับ
คุณยาย : ไม่ใช่แค่รุ้จักลูก ยายทำบุญที่นั่นประจำ
ผม : หลวงพ่อท่านกิตติศัพท์เป็นที่กล่าวขาน ทั้งเรื่องเมตตาต่อศิษย์ไ่ม่เลือกชั้น วัตรปฏิบัติท่านงดงามนะครับ
คุณยาย : ใช่จร่ะลูก เป็นงั้นจิง ๆ
ผม : แล้วคุณยายมีของที่ระลึก ( เสือ ) ของหลวงพ่อบ้างมั้ยครับ
คุณยาย : มีสิลูก ยายรับกับหลวงพ่อมากะมือเลยแหละ ( จากนั้นยายก้อเล่าให้ฟังต่อไปว่า ) เดิมทียายเคยได้รับเสือจากมือหลวงพ่อไว้แล้วครั้งหนึ่ง ( น่าจะเป็นไม่รุ่นแรก ก้อรุ่นสอง ) ยายจำไม่ค่อยได้ ยายก้อพกพาไว้ที่ตัวนานมาก ๆ จนมีอยู่วั้นหนึ่งมีคนมาถามแบบลูกนี่ล่ะ แล้วขอดูพายายเผลอปุ๊บก้อแอบหยิบจากกระเป๋าถือไปเมื่อไรไม่รู้ ไวมาก จนสุดท้ายก่อนหลวงพ่อวงษ์จะมรณะภาพ ( ตอนท่านยังแข็งแรงดี ) ยายไปทำบุญที่วัดตามปกติ หลวงพ่อสบตาเป็นยายพอดี ท่านได้เรียกยายเข้าไปพบ แล้วหลวงพ่อก้อหยิบเสือตัวหนึ่งที่อยู่ใน อังสะหลวงพ่อ ให้ยายทันทีพร้อมกับกล่าวว่า " อ่ะ คราวนี้เก็บไว้ให้ดีนะโยม เพราะหมดรุ่นนี้ก้อไม่มีอีกแล้ว " แล้วก้อเป็นดั่งท่านว่าไว้จิง ๆ หลังจากท่านมอบให้ไว้อีกไม่นานสักเท่าไร ท่านก้อละสังขาร ( แต่น่าประหลาดใจคือ หลวงพ่อท่านทราบด้วยญาณจิตของท่านว่า เสือของท่านที่เคยได้มอบให้ยายคนนี้เนินนานมาแล้วได้สูญหายไป ท่านจึงมอบให้ใหม่ พร้อมทั้งพูดสำทับไว้ว่าให้เก็บไว้ให้ดี เพราะไม่มีอีกแล้ว
จากนั้นคุณยายก้อ หยิบเสือตัวดั่งกล่าวให้ผมดู เสือตัวดั่งกล่าวมาพร้อมกับเชือกผูกไว้อย่างแน่นหนา เชือกยาวประมาณหนึ่งฟุตไม้บรรทัด ผมเลยถามว่าทำไมต้องผูกเชือกหรอครับ คุณยาย ขำ ๆ แล้วบอกว่า แบบนี้สิดี ไม่หายแน่ ๆ ก้อผูกติดกับกระเป๋าแล้วก้อมือจับเอาไว้ (เสือตัวที่ว่า เป็นรุ่น 6 ครับเพราะผมจำได้)
จบเรื่องเล่าครับ
CR..,เมตตาวิหารี