ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :8,170

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
เบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยมอันดับ๑ ของเมืองไทย
ราคา :
โชว์เครื่องราง
รายละเอียด :

$$$$$ TOP1..,Talismans (Krunglang) in Thailand (For Show!!!) $$$$$

 

พิมพ์อ้าปาก ขนาดเล็ก (องค์ครูใหญ่ของวงการ เสือเบอร์1 องค์ครูเบอร์1 ของเมืองไทย)

 

แบบเก๋าๆ มันส์ลึกปึ๊ก!!!

 

(Cr..,ป๋าพยัพ คำพันธุ์ , เฮียสุวัฒน์ , พี่เอกพันธุ์ คำพันธุ์)

==============================

 

เบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยมอันดับ๑ ของเมืองไทย (เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ)

 

"ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่น วัดศรีษะ เบี้ยแก้กันของ วัดนายโรง"

 

ปัจจุบันแทบเป็นตำนานไปแล้วครับ สำหรับสุดยอดเครื่องรางอันดับ 1 จำนวนที่เหลือหมุนเวียนสมบัติผลัดกันชมเพียงแค่จำนวนหลักสิบต้นๆ เท่านั้น ควรมีไว้เสริมบารมี ครั้งหนึ่งในชีวิตก็สุดยอดแล้วครับ เสือหลวงปานในวงการคือ สุดยอดแห่งเครื่องรางอันดับ 1 ของประเทศไทยครับ อายุการสร้างอย่างน้อยที่สุดร้อยกว่าปีแล้วครับ เสือของท่านมีประสบการณ์ในทางมหาอำนาจ และคงกระพันชาตรียอดเยี่ยม หรือจะใช้ในทางเมตตามหานิยม ค้าขายของก็ดีเยี่ยมมาแต่โบราณกาล มีค่านิยมสูงมาก มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

หลวงพ่อปาน เป็นชาวคลองด่านโดยกำเนิด เกิดในปีพ.ศ.2370 บรรพชาเมื่ออายุ 15 ปี ที่สำนักวัดอรุณราชวราราม และอุปสมบท มีพระศรีศากยมุนี เป็นอุปัชฌาย์ แล้วไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่แตง เจ้าอาวาสวัดอ่างศิลา ชลบุรี ก่อนกลับมาวัดบางเหี้ย และขึ้นเป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา ด้านความศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร ของหลวงพ่อนั้น เป็นที่เลื่องลือกันทั่วไป เป็นพระอาจารย์ที่มีญานแก่กล้า มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยรัชกาลที่ 5

 

เครื่องรางของขลังของท่านเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามากและสืบเสาะหากันจนทุกวันนี้ คือ เขี้ยวเสือแกะ ท่านคร่ำเคร่งทางวิปัสสนามากและธุดงค์อยู่เสมอ ด้วยคุณความดีและคุณธรรมอันสูงส่งของหลวงพ่อที่ได้ประกอบขึ้นไว้แต่ละครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ราษฎรในตำบลใกล้เคียง กระทั่งต่างอำเภอและต่างจังหวัดพากันเคารพนับถือและรำลึกถึงหลวงพ่ออย่างไม่เสื่อมคลาย ด้านสมณศักดิ์หลวงพ่อปาน ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ” ท่านมรณภาพเมื่อ วันที่ 29 สิงหาคม 2453 เวลา 4 ทุ่ม 45 นาที

 

เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน คลองด่าน เสือหลวงพ่อปานในวงการ คือ สุดยอดแห่งเครื่องรางอันดับ ๑ ของประเทศครับ และควบตำแหน่งเสืออันดับ ๑ ของเมืองไทย อายุการสร้างอย่างน้อยที่สุดร้อยกว่าปีแล้วครับ เสือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน สมุทรปราการ จักรพรรดิเครื่องรางอันดับ 1 ในชุดเบญจภาคีเครื่องราง ศิลปะเสือของท่านมีทั้งอ้าปาก และหุบปาก พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 5 ได้เล่าถึงหลวงพ่อปานไว้อย่างละเอียด ที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือมีการกล่าวถึงเสือของท่านไว้ว่ามีค่าแกะตัวละ 1 บาท เมื่อแย่งชิงกันขึ้นไปถึง 3 บาท 6 บาท เล่ากันว่าเมื่อครั้งท่านเข้าเฝ้ารัชกาลที่ 5 ลูกศิษย์ได้ทำเสือในพานที่จะถวายตกลงน้ำ หลวงพ่อปานท่านจึงนำดินเหนียวปั้นเป็นรูปหมูแกว่งในน้ำ เสือจึงกระโดดขึ้นต่อหน้าพระพักตร์

 

ในคราวเมื่อมีการสร้างเขื่อนพระยาไชยานุชิตที่คลองด่านเพื่อกั้นกระแสน้ำทะเลไม่ให้ท่วมเรือกสวนไร่นาชาวบ้าน แต่กรมชลประทานสร้างไม่ได้ เพราะกระแสน้ำแรงมากตีขึ้นมาตลอด หลวงปู่เห็นแก่การขจัดความเดือดร้อนของผู้คน ทำการเสกเขี้ยวเสือขว้างลงไป ปรากฏว่ากระแสน้ำลดกำลังลงอย่างน่าอัศจรรย์สามารถกั้นสร้างเขื่อนได้สำเร็จ

 

เมื่อคราวล้นเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯทรงวางศิลาฤกษ์เขื่อน คนเก่าๆ เล่ากันว่า หลวงปู่นำเขี้ยวเสือใส่พานถวาย 5 ตัว แต่เณรที่ถือพานเกิดตกประหม่าทำตกน้ำไปหนึ่งตัว ท่านเลยให้เอาเนื้อหมูผูกเชือกหย่อนลงน้ำ บริกรรมพระคาถาจนเขี้ยวเสือติดชิ้นหมูขึ้นมาต่อหน้าพระพักตร์ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงศรัทธาหลวงพ่อปานมากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ พระครูนิโรธสมาจาร และทรงเรียกเป็นส่วนพระองค์ว่า "พระครูปาน" มีปรากฏในพระราชหัตถเลขาว่า ...

 

"พระครูปานมาหาด้วย พระครูปานรูปนี้เป็นที่นิยมกันในทางวิปัสสนาและธุดงควัตร คุณวิเศษที่คนเลื่อมใสคือให้ลงตะกรุด ด้ายผูกข้อมือ รดน้ำมนต์ ที่นิยมกันมากนั้นคือรูปเสือแกะด้วยเขี้ยวเสือ เล็กบ้างใหญ่บ้าง ฝีมือหยาบๆ ข่าวที่ร่ำลือกันว่า เสือนั้นเวลาจะปลุกเสกต้องใช้เนื้อหมู เสกเป่าไปยังไรเสือนั้นกระโดดลงไปยังเนื้อหมูได้ ตัวพระครูเองเห็นจะได้รับความลำบากเหน็ดเหนื่อย ในการที่ใครๆ กวนให้ลงโน่นลงนี่ เขาว่าบางทีหนีไปอยู่ป่าช้า ที่พระบาทก็หนีขึ้นไปอยู่เสียที่บนเขาโพธิ์ลังกา คนก็ยังตามขึ้นไปกวนไม่เป็นอันหลับอันนอน แต่บริวารเห็นจะได้ผลประโยชน์ในการทำอะไรๆ ขาย มีแกะรูปเสือเป็นต้น ถ้าปกติราคาตัวละบาท เวลาแย่งชิงกันก็ขึ้นไปตัวละ 3 บาท ว่า 6 บาทก็มี ได้รูปเสือนั้นแล้วจึงไปให้พระครูปลุกเสก สังเกตดูอัชฌาสัยก็เป็นอย่างคนแก่ใจดี กิริยาเรียบร้อย อายุ 70 ปีแล้ว ยังไม่แก่มาก รูปร่างล่ำสันใหญ่โต เป็นคนพูดน้อย"


มีเรื่องเล่ากันว่า การปลุกเสกเสือของหลวงพ่อปานนั้น ท่านจะต้องมีการเรียกธาตุ 4 คือ “นะ มะ พะ ทะ” เรียก รูป เรียกนาม ปลุกเสกจนกระทั่ง เสือนั้นเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิตจริงๆทีเดียวเชียว กำหนดอุคหนิมิต ให้เครื่องรางรูปเสือนั้นมีชีวิต โดยปลุกด้วยคาถาเฉพาะ หนึ่งในบทพระคาถาที่เคยได้รับทราบมา คือ “พระคาถาหัวใจเสือโคร่ง” ลูกศิษย์ลูกหาได้ยินท่านว่า "พยัคโฆ พยัคฆา สุญญา สัพพติ อิติ ฮัมฮิมฮึม" เล่ากันว่า เมื่อท่านปลุกเสกเสร็จขณะนั่งเรือไปท่านจะนำเสือนั้นเทลงคลอง จากนั้นท่านจะนำชิ้นหมูมาล่อข้างเรือ และบริกรรมคาถา สักพักเสือจะโดดขึ้นมาติดชิ้นเนื้อหมูโดยทันที เป็นอันว่าเรียบร้อยครับ แจกลูกศิษย์ลูกหาได้

 

อุปเท่ห์ของเสือนั้น มีดี 3 อย่าง คือ

 

(1)...เป็นเจ้าป่า มีตบะเดชะมหาอำนาจ แค่เพียงกลิ่นสาปเสือโชยไปกระทบสัตว์อื่นเป็นต้องหวาดกลัว ข้อนี้ท่านว่ามหาอำนาจ จังงังครับ

 

(2)...ถึงแม้เสือจะเป็นสัตว์ที่ดุและน่ากลัวแต่คนก็อยากเห็นและอยากเจอเสือ ข้อนี้ท่านว่าเป็นเมตตามหานิยมครับ

 

(3)...หากินคล่อง ไม่มีฝืดเคืองเรื่องอาหาร ข้อนี้ท่านว่าเป็นโภคทรัพย์ ซื้อง่าย ขายคล่อง

หลักในการสังเกต และพิจารณาเบื้องต้น รูปลักษณ์ศิลปะเชิงช่างในการแกะ อายุความเก่าของเขี้ยวตามธรรมชาติ ความพลิ้วของลายมือการลงอักขระ และตำแหน่งการจารอักขระที่ลงตัวเสือ ทั้งนี้ต้องอาศัยทักษะอันเกิดจากการเห็นของแท้บ่อยๆ ในหลายๆสภาพ จึงจะสามารถแยกแยะได้อย่างชำนาญครับ

 

พุทธคุณ เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย นั้นมีพุทธคุณครบเครื่องทั้งเมตตา แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี แต่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นทางด้านคงกระพันชาตรีครับ
(จากบทสัมพาษณ์คุณอ็อดเสือ เรื่องปาฏิหาริย์จากเสือ) ทุกครั้งที่ผมคิดว่า ปัญหาจะเกิดขึ้นทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องธุรกิจ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี นอกจากนี้แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ยากเกินอธิบาย คือ ทุกครั้งที่เข้าหาผู้ใหญ่ ไม่จะเป็นเรื่องใดก็จะได้พบและได้พูดคุยธุระผ่านไปด้วยดี “ทุกวันนี้แม้จะมีเสือหลวงพ่อปานมากถึง ๘๐ ตัว มูลค่าถึงหลักร้อยล้านบาท แต่มีเสือหลวงพ่อปานเพียงตัวเดียว ซึ่งมากพอที่จะคุ้มครองให้ตัวเองปลอดภัยอยู่แล้ว"

 

หลวงปู่สี วัดเข้าถ้ำบุญนาค เคยกล่าวถึงท่านไปเมื่อตอน มีคนถามท่านว่ารู้จักหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคไหม? ท่านตอบว่ารู้จักแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย และกล่าวว่า "หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย นั่งเรือไม่ต้องแจวเรือ เรือแล่นได้เอง" หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย นั้นท่านมีชื่อเสียง ในเรื่องการสร้างตะกรุด ผ้ายันต์ต่างๆ รวมทั้งเครื่องรางประเภทอื่นๆมากหลายอย่าง

 

SPECIALS THANK ป๋าพยัพ คำพันธุ์ , คุณต้น แจ่มมณี , คุณแต้ ขมังเวทย์ , คุณหมึก ท่าพระจันทร์ , คุณหมอแอม , คุณเด็จ พงษ์พานิช , คุณเต้-คุณต็อด เบียร์สิงห์ , คุณเอกชัย , คุณอ็อดเสือ สำเพ็ง , โกติ่ม , คุณโย ข้าวมันไก่เจ๊อ้วน , คุณเคน , Mr.Ace HK , คุณตุ๊ก สองพี่น้อง , คุณสัญ เมืองเสือ , คุณต้น ท่าพระจันทร์ , คุณเมธี บุญทอง , คุณเติ้ง รักษ์ศิลป์ , ฯลฯ

ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
0858798569
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด