๙๙๙ No.1 narpaksuer (tiger forehead ) in Thailand

Lp.nak wat aroon bkk. B.e.2475 (created 60-80 pc. Not over 100 pc.)

@@ หน้าผากเสืออันดับ1..,ของเมืองไทย @@

จักรพรรดิ์ตะกรุดหน้าผากเสือ ยอดนิยมอันดับ๑ ของเมืองไทย
(หลวงปู่นาค วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) กทม.)

“มหาอำนาจป้องกันภัย ด้วยหัวใจแห่งไตรสรณคมน์
มัดสามปล้องซ่อนแฝงความหมาย ปราบภัยร้ายดังพยัฆค์สยบไพรี”

จักรพรรดิ์แห่งหนังหน้าผากเสือ เบอร์หนึ่งของวงการ!!! หลวงปู่นาค วัดอรุณ (มัดสามปล้อง แฝงคติธรรมตามความหมาย ของยันต์ไตรสรณคมณ์ อันประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย ดวงแก้วสามประการอันประเสริฐที่สุดในโลก!!! ) ถูกจัดวางอันดับให้อยู่ในชุดเบญจภาคีตะกรุดหนังหน้าผากเสืออันดับ1 ของเมืองไทย ที่หาตัวจริงได้ยาก เปรียบประดุจดังว่า เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เข้าใจว่าสร้างไว้เพียงหลักสิบ ไม่ถึงหลักร้อยดอก ซึ่งมีความเข้มขลังเป็นยิ่งนัก สุดยอดมหาอำนาจ มหาบารมีสูงยิ่ง มีเสน่ห์เป็นสง่าราศี และมีความอุดมสมบูรณ์ คลาดแคล้วจากภัยพิบัติต่างๆ รวมทั้งสามารถป้องกันคุณไสย์ สิ่งชั่วร้ายต่างๆได้ดียิ่งนัก

หลวงปู่นาคท่านเป็นลูกศิษย์สมเด็จพระวันรัต (แดง) เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีหลวงพ่อหว่าง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี เป็นพระกรรมวาจาจารย์และเป็นอาจารย์ผู้สอนวิชาการสร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ นอกจากนี้หลวงปู่นาคท่านยังเป็นสหธรรมิกที่มีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช (แพ) แห่งวัดสุทัศน์ฯ บรมครูในการสร้างพระกริ่ง ตะกรุดของท่านนับเป็นตะกรุดหนังหน้าผากเสืออันดับหนึ่งของเมืองไทยที่มีค่านิยมสูงที่สุด และยังนับเป็นสุดยอดเครื่องรางหายากที่มีหมุนเวียนในวงการเพียงไม่เกินหลัก 20 ดอกอย่างแน่นอน

หลวงปู่นาคท่านมีความรู้ทั้งในด้านพระปริยัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐาน พร้อมทั้งยังมีวิทยาคมสูงมาก ท่านได้ศึกษาวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อหว่าง วัดเทียนถวายจนหมดสิ้น ทั้งวิชาลงหนังหน้าผากเสือ วิชาลงผ้าระเจียดแดง ซึ่งเป็นที่ลือเลื่องของหลวงพ่อหว่าง ขนาดมีนกมาเกาะอยู่ในบริเวณวัด เคยมีคนมาลองยิงยังยิงไม่ออก หลวงปู่นาคท่านได้เคยแจกรูปถ่ายอัดกระจก ในปี พ.ศ.2475 เนื่องในโอกาสทำบุญอายุครบ 60 ปี และท่านได้สร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือให้เฉพาะลูกศิษย์และจะไม่แจกหลายครั้งทำให้เป็นที่ใฝ่หากันมาก ตะกรุดหนังหน้าผากเสือของท่านนั้นเข้มขลังมากมีประสบการณ์มากมาย ท่านจะทำเฉพาะปีที่เสาร์ห้าเท่านั้น และปลุกเสก หนึ่งไตรมาส ขนาดที่ว่าใครใส่ตะกรุดของท่านเดินผ่านคอกวัวควาย วัวควายยังตื่นกลัวกระโดดออกรั้ววิ่งหนีไปปัจจุบันหาชมได้ยาก 

ขนาดของตะกรุด มีตั้งแต่ความยาว 1.5 นิ้ว ถึง 2.5 นิ้ว ขนาดความโต 0.5 นิ้ว หรือ 12 ถึง 15 มิลลิเมตร โดยประมาณ ลงด้วยยันต์ไตรสรณคมณ์ แล้วม้วนกลมๆ ขนเสือส่วนมากจะทำการโกนออกให้หมดก่อนเหลือแต่หนังเปล่าๆ เมื่อม้วนเรียบร้อยแล้ว ท่านได้เอาเส้นด้ายสายสิญจน์ทำการผูกมัดเป็นสามเปราะ ขณะเดียวกันท่านก็ได้บริกรรมคาถาไปด้วย เสร็จแล้วก็ทำการลงรักปิดทอง

ลูกศิษย์ที่ทันท่านรับใช้ จะเรียกท่าน ว่า "ท่านพ่อหลวง" ทุกคำ ไม่เรียกว่า หลวงปู่ หรือ หลวงพ่อ หรือ ท่านเจ้าคุณ ไม่รู้ด้วยเหตุใด เรื่องนี้เป็นเล่าบางช่วงบางตอน ของผู้ที่ไปรับใช่ท่านมา 9 ปี ตั้งแต่ท่านอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม อาหารที่ชอบฉันนั้นคือ ปลาทู ไม่หยิบจับเงิน ถือวินัย อย่างเคร่งครัด ตามแบบบูรพจารย์ของท่านที่เป็นพระ ชาวมอญ คือหลวงปู่สว่างหรือ พระธรรมมานุสารี วัดเทียนถวาย อดีตเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี หลวงปู่นาคท่านมีความเชี่ยวชาญบาลีไวยยากรณ์ สามารถแปล แบบเปล่าต่อหน้าพระมหากษัตริย์ และพระระดับท่านเจ้าคุณที่มาคุมสอบ ได้ที่เดียว 4 ประโยด เมื่อครั้งเป็นสามเณรเลย นับมายอดเยี่ยม ทางด้านความจำและปัญญามากในสมัยนั้น 

<< ข้อมูลประวัติ >> พระพิมลธรรม (นาค) วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) เกิด วันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2415 เป็นบุตรของ นายนวล นางเลื่อน บรรพชา อายุ 12 ปี ณ วัดสารพัดช่าง อุปสมบท พ.ศ.2435 ณ วัดสุทัศน์ฯ มรณภาพ วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2485 ตรงกับ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเมีย รวมสิริอายุ 72 ปี 6 เดือน 50 พรรษา

เสือมีความเชื่อว่าเป็นจ้าวแห่งป่าเรืองอำนาจ บารมี มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือมากมาย เช่นคนกลายเป็น เสือกลายเป็นคน หรือเสือสมิง ผู้ภาวนาคาถาหัวใจพยัคฆ์ตั้งมั่นในฌานสามารถทำให้คนอื่นเห็นหรือกลายร่างได้ คณาจารย์โบราณนิยมนำส่วนต่างๆของเสือโดยเฉพาะหน้าผากเสือ(แรงสุด) มาเป็นเรื่องรางของขลัง และส่วนใดๆของเสือที่ละสังขารถือเป็นของคงทนสิทธิ์ ไม่มีสิ่งใดลบล้างอำนาจได้ ยิ่งได้เกจิอาจารย์ที่มีอาคม สมาธิแก่กล้าลงอักขระคาถาบนหนังเสือ ปลุกเสกตามตำรา จะมีอานุภาพครอบจักวาลมีอำนาจต่อผู้พบเห็น สยบสิ่งอัปมงคล ป้องกันคุณไสย ลมเพลมพัด การกระทำของผู้มีอวิชชา หรือทำของ อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย มีโชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ในตัว ดังพญาเสือฉันใดฉันนั้น

คณาจารย์โบราณนิยมนำส่วนต่างๆของเสือโดยเฉพาะหน้าผากเสือ (อาถรรพ์เวทย์แรงที่สุด) มาเป็นเรื่องรางของขลัง และส่วนใดๆของเสือที่ละสังขารถือเป็นของคงทนสิทธิ์ ไม่มีสิ่งใดลบล้างอำนาจได้ ยิ่งได้เกจิอาจารย์ที่มีอาคม สมาธิแก่กล้าลงอักขระคาถาบนหนังเสือ ปลุกเสกตามตำรา จะมีอานุภาพครอบจักวาลมีอำนาจต่อผู้พบเห็น สยบสิ่งอัปมงคล ป้องกันคุณไสย ลมเพลมพัด การกระทำของผู้มีอวิชชา หรือทำของ อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย มีโชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ในตัว ดังพญาเสือฉันใดฉันนั้น ใครชอบของอาถรรพ์ของแรง ไม่ควรพลาดหามาสะสมนะครับ เสือหนึ่งตัวทำตะกรุดได้ดอกเดียวนะครับ เมื่อกล่าวถึงเสือทุกคนต่างรู้จักกันดี เพราะเสือเป็นสัตว์ที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ในโลกนี้ไม่มีใครไม่กลัวเสือและทุกชนชาติที่รู้จักเสือก็ไม่มีใครที่จะไม่นับถืออำนาจบารมีของเสือ ในทางมายาศาสตร์แล้ว เสือเป็นสัตว์ที่มีพลังทางวิญญาณในระดับสูงและมีอำนาจจิตด้วย สิ่งเหล่านี้เมื่อประกอบกับพละกำลัง และเขี้ยวเล็บที่ธรรมชาติมอบให้ก็ทำให้มันครองเจ้าป่าได้โดยไม่ยากเย็น ยิ่งเสือที่มีพลังทางวิญญาณสูงถึงขั้นเป็นพญาเสือ เพียงแต่จ้องตาใครเท่านั้นคนหรือสัตว์นั้นก็จะหมดเรี่ยวหมดแรงกลายเป็นเหยื่อให้มันฆ่าได้อย่างง่ายดาย

SPECIALS THANK หนังสือรวมสุดยอดตะกรุดไทย (โดย ท่านพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์) , ป๋าพยัพ คำพันธุ์ , คุณต้น แจ่มมณี , คุณแต้ ขมังเวทย์ , คุณหมอต้น เสี้ยนพระ , คุณวิทยา เสือปิดตา , คุณอี๊ด เมืองโบราณ , เฮียสมโภช บางบัวทอง , คุณหมง ทรัพย์มงคล , คุณแจ้ เสนา , คุณเติ้ง รักษ์ศิลป์ , คุณก้อง กวนอู ฯลฯ ๙๙๙