ปลัดเบอร์1 ของเมืองเพชร!!! 
หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก เพชรบุรี 

ขนาด 2.5 นิ้ว แบบเก๋าๆ มันส์ลึกปึ๊ก!!! (หาชมยาก แบบชัดเจน)

สุดยอดพระคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งเมืองคนดุ หลวงพ่อโสกท่านเรียนวิชาการสร้างปลัดขิกมาจากครูผึ้ง กรุงเก่า ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

โดยท่านจะปลุกเสกจนปลัดขิกของท่านกระโดดได้ทุกตัวจึงจะอันเสร็จพิธี มีอานุภาพทางป้องกันอันตรายต่างๆ เป็นเมตตามหานิยม ป้องกันเขี้ยวงา อาราธนาทำน้ำมนต์ประพรมของค้าขายดี

เรียกได้ว่ามีอานุภาพนานัปการ และนับเป็นหนึ่งในปลัดขิกยอดนิยมที่หาตัวจริงยากที่สุด เล่ากันว่าเมื่อครั้งมีการประชุมที่วัดพระนอน เพชรบุรี สมเด็จพระสังฆราช (จวน) วัดมงกุฎฯ ซึ่งได้ยินคำร่ำลือยังได้กล่าวขอปลัดขิกจากท่าน ตัวนี้สภาพสวยแชมป์ ทรงกล้วยหอมนิยม เนื้อจัดมัน จารลายมือท่าน

=============================

หลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก จ.เพชรบุรี พระมหาเถราจารย์ที่ชาวเมืองเพชรให้ความเคารพนับถือเป็นอันมาก

ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดปากคลอง ซึ่งได้จัดสร้างเครื่องรางไว้หลายชนิด เป็นที่โด่งดังเป็นที่รู้จักในยุคนั้น อาทิเช่น พระขรรค์ ปลัดขิก น้ำเต้ากันไฟ และยังเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้าน วิชาโหราศาสตร์ เวชศาสตร์ ไสยศาสตร์ เป็นต้น

ท่านได้ศึกษาศาสตร์ทุกแขนงอย่างจริงจัง และยังได้นำมาช่วยเหลือผู้อื่นในโอกาสต่อมา ท่านเป็นผู้มีกฤตยาคมแก่กล้า มีจิตตานุภาพสูงจึงทำให้ท่านเป็นผู้มีเกียรติคุณมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือของชนทุกชั้นตั้งแต่ราษฏรสามัญชนไปจนถึงข้าราชการผู้ใหญ่ เช่น พระยาสุรพันธุ์เสนีย์ (อิ้น บุนนาค)

หลวงพ่อโศก ได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจของท่าน ช่วยเหลือประชาชนในด้านเวชศาสตร์อันเกี่ยวกับการแพทย์แผนโบราณ เป็นต้น ได้ทำประโยชน์สงเคราะห์ผู้อื่นตลอดมาโดยมิได้เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย จนแทบกล่าวได้ว่าวัดปากคลองในสมัยนั้น เปรียบเสมือนโรงพยาบาลของชาวบ้านโดยแท้

หลวงพ่อโศกท่านได้ศึกษาวิชาการสร้างมีดหมอ(พระขรรค์)นี้มาจากพระอาจารย์สองสำนักคือ หลวงพ่อคล้าย วัดพระทรง และหลวงพ่อแหล่ม วัดบางคลี่ สมุทรสงคราม (ซึ่งต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่วัดจันทร์เจริญสุข) ซึ่งการสร้างพระขรรค์ตามตำราโบราณของท่านนั้น จะต้องใช้เขาควายเผือก ตายโหง คือ จะต้องถูกยิงตาย ขวิดกันเองตายหรือถ้าถูกฟ้าผ่าตายได้ก็ยิ่งวิเศษ เขาควายเหล่านั้น จะต้องไม่ถูกต้มมาก่อนกล่าวคือเมื่อควายตายลงก็ต้องชำแหละตัดเขาออกสดๆ และนำเขาควายนั้นมาตัดออกเป็นชิ้นแกะเป็นรูปพระขรรค์ เวลาแกะให้แกะจากโคนเขาไปหาปลายเขาเป็นทางเดียวตลอด ถ้าแกะทวนเขาแม้แต่ครั้งเดียวก็ใช้ไม่ได้ต้องโยนทิ้งไป ขั้นตอนต่อมาจึงนำพระขรรค์ที่แกะเสร็จแล้วนำมาลงอักขระในที่นี้จะแยกออกเป็นสองลักษณะเพราะเป็นการลงเต็มและย่อทั้งนี้และทั้งนั้นก็เนื่องมาจาก พระขรรค์ของหลวงพ่อมีทั้งขนาดใหญ่บูชาประจำบ้านการลงถ้าอันใหญ่จะลงเต็มบทถ้าขนาดเล็กจะลงเฉพาะหัวใจพระคาถาเท่านั้น คาถากำกับพระขรรค์ก็มีดังนี้ ให้ตั้งนะโมฯ ๓ จบแล้วตามด้วยพระคาถา .... "พุทโธปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ"

มีเรื่องเล่ากันว่า...เสือขาว ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อดิ่งแขวนพระปิดตา และตะกรุดหลวงพ่อดิ่ง แต่ไม่ประพฤติตนเป็นคนดี เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจเป็นอย่างมาก อาวุธปืนทั่วไปก็ไม่อาจทำอันตรายเสือขาวได้แต่อย่างใด

ทางตำรวจจึงมากราบหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์เพื่อปรึกษาหาแนวทางในการคัดของเสือขาว หลวงพ่อดิ่งท่านจึงกล่าวออกไปว่า ไม่มีอะไรมาคัดของของท่านออกได้ ยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือ พระขรรค์หลวงพ่อโศก พระผู้เป็นสหธรรมิกของท่านเพียงรูปเดียว โดยให้ใช้ปลายพระขรรค์เขียนคาถาตามที่ท่านให้ ลงที่ลูกปืน

ผลสุดท้ายเสือขาวต้องจบชีวิตการเป็นโจรด้วยเหตุแห่งการล้างอาถรรพ์คัดของโดยพระขรรค์หลวงพ่อโศกวัดปากคลองฯอันศักดิ์สิทธิ์นี้

วัตถุมงคลของหลวงพ่อโศกไม่ว่าจะเป็นเหรียญพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว พระขรรค์ ปลัดขิก ผ้ายันต์และวัตถุที่เป็นมงคลอื่น ๆ ลูกศิษย์ลูกหาผู้ใกล้ชิด และประชาชนทั่วไปได้นำไปบูชาพกพาอาราธนาติดตัว ล้วนมีประสบการณ์ปาฏิหาริย์มากมาย

วัตถุมงคลของท่านโดดเด่นในเรื่องคงกระพันชาตรี สยบภูตผีปีศาจ เสนียดจัญไรแคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยพิบัติอันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากน้ำมือของเทวดา มนุษย์และผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ก็มลายหายสิ้นอย่างสิ้นเชิง