สมญานาม..,ลูกอมติดวิญญาณ (มัดตราสังข์)

อาจารย์แน่น วัดอินทาราม (หนองขาว) กาญจนบุรี 

ขนาด 2.2*2.5 cm (ไม่รวมห่วง)

แบบเก๋าๆ ยุคต้นๆ จัดมันส์จี้ดดดด!!!

=============================

ประวัติ พระครูปลัดแน่น หลวงพ่อแน่น ปุสฺโส อดีตเจ้าอาวาส วัดอินทาราม ( วัดหนองขาว) อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

เจ้าตำรับ ลูกอม ผ้าห่อศพพรายท้องกลม ลูกอมอันโด่งดังหนึ่งใน ตำนานจังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อแน่น ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ หรือ พระวิสุทธิรังษี อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

หลวงพ่อแน่น ท่านเกิด ปีระกา เมื่อปี พ.ศ. 2452 ชื่อเดิมว่า แน่น นามสกุล พัฒนมาศ เป็นชาวบ้านหนองขาวโดยกำเนิด

โยมบิดาชื่อ นาย นุ้ย โยมมาดาชื่อนาง ปลีก พัฒนมาศ มีพี่น้อง 3 คนคือ

๑.นางน่วม โพธิ์เงิน 
๒.หลวงพ่อแน่น ปุสฺโส 
๓.นายหน่วง พัฒนมาศ

หลวงพ่อแน่น อุปสมบท 2 ครั้ง
ครั้งแรกปี พ.ศ. 2474 อายุ 22 ปี ณ พัทธสีมาวัดหนองขาว (ไม่มีข้อมูล)

ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2483 อายุ 31 ปี ณ พัทธสีมาวัดใต้ โดยมี
พระวิสุทธิรังษี (หลวงพ่อเปลี่ยน) วัดใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์ 
พระครูโกวิทสุตคุณ (หลวงพ่อพยอม) วัดหนองขาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระครูพนมคุณาธาร (หลวงพ่อบ้อง) วัดห้วยสะพาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้ฉายาว่า ปุสฺโส มาจำพรรษาที่วัดอินทาราม 
(วัดหนองขาว) จากคำบอกเล่าของ ลุงเจียก แตงโต อายุ 63 ปี ได้เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด หลวงพ่อแน่น ตอนลุงเจียก แตงโตบวชเป็นพระคอยรับใช้คอยบีบนวดให้ หลวงพ่อแน่น ได้เคยถาม หลวงพ่อแน่น คิดยังไยมาบวชจึงไม่สึก หลวงพ่อแน่นท่านได้เล่าว่า ก่อนมาบวชครั้งที่ 2 ท่านได้มีเมียประกอบอาชีพทำนาและเลี้ยงวัว ท่านได้เลี้ยงวัวในป่าได้พบ หมอสักยันต์กำลังสักให้ชาวบ้านแล้วใช้มีดฟันชาวบ้านแต่ฟันไม่เข้า ท่านก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นและท่านได้อยู่กับเมีย มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้พูดกับเมียว่าถ้าเมียตายจะบวชไม่สึกและแล้วไม่นาน เมียท่านก็ตั้งท้องจนครบกำหนดคลอด ได้บุตรชายแต่เป็นที่ทุกข์ใจมากปรากฏว่าเมียท่านเสียชีวิตตอนครอดบุตรชาย ต่อมาท่านได้เลี้ยงดูบุตรชายและแล้วบุตรชายท่านก็ป่วยเป็นโรคหัดจนเสียชีวิต ดั่งคำที่ท่านเคยพูดกับเมีย ถ้าเมียตายจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต ไม่นานนักท่านได้เดินทางไปพบ พระวิสุทธิรังษี (หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้) จะขอบวชไม่สึกตลอดชีวิต

หลวงพ่อเปลี่ยนบอกว่ากลับไปคิดดูให้ดีก่อนแล้วกลับมาตกลงกันใหม่ และแล้วหลวงเปลี่ยนก็ไม่ได้บวชให้ ฆารวาสแน่นได้กลับมานอนคิดอยู่ 4 ถึง 5 วัน ได้ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต จึงได้เดินทางไปพบหลวงพ่อเปลี่ยนอีกครั้งเพื่อขอบวชแล้วหลวงพ่อเปลี่ยนก็บวช ให้ โดยมี หลวงเปลี่ยน วัดใต้ เป็นพระอุปัชาย์ ณ พัทธสีมาวัดใต้ มาจำพรรษาอยู่ที่ วัดอินทาราม (วัดหนองขาว) พระภิกษุแน่นก็เริ่มเรียนนักธรมตรีใหม่ เดินทางไปสอบนักธรรมที่วัดใต้จนได้

นักธรรมตรีอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้บวชเรียนจากครั้งแรก และศึกษาค้นคว้าจนสอบได้ นักธรรมโท และนักธรรมเอก ตามลำดับและศึกษาภาษาบาลี และ ธรรมะจนแตกฉาน และพระภิกษุแน่น ได้ปฏิบัติวินัยสงฆ์อย่างเคร่งครัดพฤติดี
อย่างพระสงฆ์ดีมาตลอด ต่อจากนั้นหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ ได้มีคำสั่งมาถึงวัดหนองขาวให้พระภิกษุแน่น ให้ไปพบที่วัดใต้ในขนาดนั้นพระภิกษุแน่นมีความสงสัยว่าพระอุปัชฌาย์หรือหลวงพ่อเปลี่ยนให้ไปหาทำไม สมัยก่อนต้องเดินทางด้วยเท้าจากวัดหนองขาวไปยังวัดใต้ไม่มีรถประจำทาง พอเดินทางไปถึงวัดใต้ก็ได้พบกับหลวงพ่อเปลี่ยน ท่านก็ได้เอ่ยกับพระภิกษุแน่นว่า ท่านก็บวชเรียนมาหลายพรรษาแล้ว ท่านก็เป็นพระที่เชื่อถือได้ในแนวทางนี้ หลวงพ่อเปลี่ยนก็อายุมากแล้ว ไม่รู้จะมอบหน้าที่นี้ให้ใคร ถือเป็นการสมควรจะทำหรือครอบครองสิ่งนี้ หลวงพ่อเปลี่ยนเดินเข้าไปในกุฏิถือตำรามา 1 เล่ม แล้วพูดว่านี่เป็นตำราโหราศาสตร์ หลวงพ่อเปลี่ยนพูดว่าตำรานี้มีหลายอย่างมีวิชา ทำพระ ทำลูกอม ทำหนังหน้าเสือ และอื่นๆอีกหลายอย่าง แล้วหลวงพ่อเปลี่ยนก็มอบตำราให้พระภิกษุแน่น ต่อจากนั้นเมื่อมีเวลาว่างอาจารย์แน่นก็เลยทำดู เมื่อไม่เข้าใจตรงไหนท่านก็ไปถามหลวงพ่อเปลี่ยนเพราะอาจารย์แน่นจะไปเรียน นักธรรมที่วัดใต้อยู่เสมอ และเวลาต่อมาได้มีผู้หญิงตายท้องกลม อาจารย์แน่นให้ลูกศิษย์เปลี่ยนผ้าห่อศพ โดยใช้ผ้าผืนใหม่ห่อศพไว้ แทนของเก่าและนำผ้าห่อศพที่เปลี่ยนมาตัดเป็นสี่เหลี่ยม แล้วเขียนยันต์บนผ้าสี่เหลี่ยมเสร็จแล้วตัดผ้าเป็นชิ้นเล็กๆและนำลวดหรือทองแดงมาขึ้นโครงเป็นลูกอมมีหู(ในระยะหลังอาจารย์แน่น จะถักเชือกขึ้นหูไว้ แล้วให้ลูกศิษย์ถักเชือกต่อ) แล้วนำผ้า,สายสิญจน์มงคล ที่ตัดมาม้วนใส่ไปในโครงลวดแล้วใช้ด้ายดิบถักเป็นก้นหอยจะจบด้วยการถักที่ ตูดลูกอม และจะนำลูกอมจุ่มรัก แล้วตากแดดให้แห้งเป็นการทำลูกอมขั้นตอนสุดท้าย ตามตำรา หลังจากนั้นท่านอาจารย์แน่น จะปลุกเสกในกุฏิไม้เพียงลำพังจน สำเร็จวิชาและได้แจกให้กับลูกศิษย์ได้บูชา ต่อจากนั้นไม่นานนัก ท่านก็เริ่มออกเดินธุดงค์ไปยัง อำเภอสรรคโลก ท่านก็นำลูกอมส่วนหนึ่งที่ทำการปลุกเสกไว้แล้วใส่ในย่ามไปด้วย ท่านได้เดินทางถึงอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ก็ได้พบกับโยมชาวบ้านคนหนึง โยมชาวบ้านผู้นั้นได้ขอปรวณาตัวท่านอาจารย์แน่นมาจำพรรษาที่วัด 1 พรรษา โดยชาวบ้านผู้นั้นจะส่งข้าวส่งน้ำและหมากพลูให้จนล่วงเลยมาถึงออกพรรษา อาจารย์แน่นได้เดินทางกลับวัดหนองขาว ก่อนจะกลับอาจารย์แน่นได้ขอบใจโยมชาวบ้านผู้นั้นที่คอยปรวณาตัวท่านไว้ ท่านไม่มีอะไรจะให้ท่านเลยให้ลูกอมที่อยู่ในย่ามจำนวน 2 ลูก กับลูก ชายโยมชาวบ้าน ต่อจากนั้นท่านเดินทางกลับมาถึงวัดหนองขาว

หลังจาก 1 พรรษาต่อมาลูกชายของชาวบ้านผู้นั้นได้ไปที่ร้านถ่ายรูปเพื่อถ่ายรูปแล้วทำการถ่ายรูปแต่ปรากฏว่าถ่ายรูปไม่ติด แล้วทำการถ่ายใหม่ก็ไม่ติดถ่ายกี่ครั้ง กี่หนก็ไม่ติด ช่างถ่ายรูปสงสัยว่ามีของดีอะไรอยู่ในตัว ก็เลยค้นตัวดูปรากฏว่าพบลูกอม แล้วนำลูกอมออก จากตัวแล้วทำการถ่ายรูปใหม่ปรากฏรูปที่ก็ติดรูปออกมา ต่อจากนั้นทำให้ลูกอมของท่านเป็นที่เลืองลือขึ้นมา

ในสงครามอินโดจีนที่เวียดนามท่านได้แจกลูกอมให้ลูกศิษย์นำ ไปใช้พอกลับมาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยรอดชีวิตทุกคน ครั้งหนึงเคยมีคนมาขออาจารย์แน่นถ่ายรูปอาจารย์แน่น ช่างคนนั้นบอกกับอาจารย์แน่นว่า ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอาจารย์แน่นพูดว่า โยมจะมาถ่ายรูปทำไมพระแก่ๆ ให้ถ่ายพระหนุ่มเยอะแยะไป ต่อจากอาจารย์แน่นให้ถ่ายรูปท่านอาจารย์แน่น ได้นั่งสมาธิให้ถ่ายหน้าโต้ะหมู่บูชา ในการถ่ายรูปปรากฏว่าถ่ายไม่ติดรูปอาจารย์แน่น ติดแต่โต้ะหมู่บูชา กะโถน กาน้ำชา เชี้ยนหมาก อาจารย์แน่นขอดูรูปที่ช่างถ่ายรูปได้ถ่ายไว้ ปรากฏว่าภาพที่ถ่ายออกมานั้นไม่มีภาพท่าน ทำให้ช่างถ่ายภาพฉงนยิ่งนักช่างถ่ายภาพจึงทำการขอขมาอาจารย์แน่น และทำการถ่ายภาพอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ภาพที่ถ่ายออกมาเป็นเหมือภาพทั่วไป
จึงทำให้ชื่อเสียงอาจารย์แน่น เป็นที่กล่าวถึงจนทุกวันนี้ 
อาจารย์แน่นยังมีคุณงามความดี มีเมตตาธรรมชอบสอน ปริยัติธรรมให้พระภิกษุ สามเณรและมีความสนใจ
ศึกษาค้นคว้าวิชาเวทมนต์คาถา จึงทำให้วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อแน่นจึงเป็นที่หวงแหนของชาวตำบลหนองขาวยิ่งนัก