เครื่องรางไทยดอทคอม,เว็บไซต์เครื่องรางคุณภาพมาตรฐานแห่งแรกของเมืองไทย

เครื่องรางยอดนิยม

เครื่องรางล้านนา

เครื่องรางทั่วไป/ใหม่

เครื่องรางไม่จำกัดสำนัก/ อื่น ๆ

ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :14,853

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ชื่อเครื่องราง :

ปลัดขิกเพชรพญาธร ตัวครู!!! หลวงพ่อเล็ก วัดบ้านหนอง ชัยนาท

ราคา :

มาใหม่

รายละเอียด :

@@@ ปลัดขิกเพชรพญาธร ตัวครู!!! หลวงพ่อเล็ก วัดบ้านหนอง ชัยนาท @@@

ขนาด 7 นิ้ว สวยเดิมๆ หาชมยากสุดๆๆๆๆ

============================

ปลัดขิกหลวงปู่เล็ก กับเสือสอน

นายสอนนั้นเดิมเป็นคนบ้านหนองโพ จ.นครสวรรค์ มาฝากตัวเป็นศิษย์วัดอยู่กับหลวงปู่เล็ก ตั้งแต่เล็กๆท่านเลยเมตตาเอ็นดูให้เป็น " บุตรบุญธรรม"ของท่าน ครั้นนายสอนโตเป็นหนุ่มฉกรรจ์ก็กราบลาท่านกลับบ้านเดิมที่หนองโพ

หลวงปู่เล็กได้เอาปลัดขิกของท่านที่ปลุกเสกตลอดไตรมาสมาตัวหนึ่งแล้วลงอักขระประสิทธิ์ให้นายสอนเป็นการเฉพาะตัวสำหรับเอาไว้ปกป้องคุ้มครองตัวเองแล้วสั่งนายสอนว่า

"เอ็งจงเป็นคนดีมีศีลธรรมลูกเอ๋ย อย่าเกกมะเหรกเกเร"

นายสอนกราบรับคำว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งของหลวงปู่เล็กทุกประการ เมื่อกลับไปถึงบ้านที่หนองโพ นายสอนก็ประพฤติตัวเป็นคนดีทำมาหากินขยันขันแข็งโดยสุจริตธรรมแต่นั่นแหละใครเล่าจะหนีวิบากกรรมเก่าไปได้พ้น ทำให้มีเหตุเป็นไปให้นายสอนจำเป็นต้องคบหาสมาคมกับเพื่อนฝูง ซึ่งเพื่อนเหล่านั้นก็เป็นปถุชนที่ชอบกินเหล้าเมายาเฮฮาสนุกสนาน คึกคะนองไปตามวัยรุ่นวัยฉกรรจ์ มีการสำแดงลายนักเลงตีรันฟันแทงกับพวกอื่น อวดเก่งหรือเห็นเป็นของสนุกไปตามประสานักเลงลูกทุ่งซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
แต่รายนายสอนไม่ธรรมดาเสียแล้ว เพราะก้าวหน้าข้ามขึ้นไปถึงคบหาสมาคมกับเพื่อนที่เป็นไอ้โจรไอ้นักเลงหัวขโมย ขี้คุกขี้ตะราง มีใบแดงแจ้งโทษเป็นชนักปักหลัง กระทั่งวันหนึ่งเกิดมี การตะลุมบอนกันขึ้นในวงเหล้านายสอนถูกเพื่อนๆรุมตีรุมฟันแทงแต่ไม่เข้า ไม่มีเลือดไม่มีแผลแม้แต่นิดเดียว แถมยังถูกนายสอนเตะเสียอานคลานกันเป็นแถว เหมือนหมา เพื่อนๆวายร้ายเหล่านั้นก็เกิดความเกรงกลัวเห็นนายสอนเหลือร้ายมีฤิทธิ์เดชกว่าเป็นไหนๆ เลยพร้อมใจกันขอขมาโทษ ยกให้นายสอนเป็นพี่ใหญ่หรือหัวหน้า

หากวิเคราะห์ตามกฏแห่งกรรม ก็จะได้ความว่า "อปีฬกะกรรม"ฝ่ายอกุศลชั่วที่มีอานุภาพรุนแรง ได้ติดตามมาทันนายสอนเข้าแล้วตอนนี้ เรื่องอุปีฬกะกรรมพิสดารมหัศจรรย์เพียงไร ท่านผู้อ่านสนใจอยากรู้ซึ้ง โปรดหาอ่านได้จากหนังสือเรื่อง "กรรมทีปนี" รจนาโดยท่านเจ้าคุณเทพมุนี วัดดอน ยานนาวา กทม.

เมื่อนักเลงหัวไม้ได้โจรทั้งหลายยกให้เป็นเฮียใหญ่หรือหัวหน้า นายสอนก็เคลิบเคลิ้ม เกิดกิเลสตัณหา ความหยิ่งผยองหลงผิดไปกันใหญ่ เรียกว่ามิจฉาทิฐิเห็นผิดเป็นชอบเห็นดอกบัวเป็นกงจักรวิเศษสำหรับประหัตประหารศัตรู จึงเริ่มสำแดงลวดลายเสือร้าย ให้ลูกน้องได้เห็น

นายสอนได้เริ่มพาลูกน้องลักเล็กขโมยน้อย แล้วพัฒนารุดหน้าไปถึงขั้นลักวัวลักควาย ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ เรียกว่าโตแล้วเรียนลัดสำเร็จมหาวิทยาลัยโจรศาสตร์ ได้รับปริญญาเอก ฝ่ายมหาโจรไปเสียแล้ว

นายสอนกลายเป็นขุนโจรสอน นามกระเดื่อง ที่ขึ้นชื่อลือชาว่าหนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน ของดีวิเศษประจำตัวขุนโจรสอนมีอย่างเดียวคือ "ปลัดขิก"ของหลวงปู่เล็ก
กิตติศัพท์ความดังระเบิดของเสือสอน ได้ดังไปเข้าหูหลวงปู่เล็ก ท่านได้แต่ถอนใจสลดสังเวชในชะตากรรมของนายสอน ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมเห็นจะเป็นเพราะเมตตาเจ้าลูกบุญธรรมคนนี้มากไปหน่อย ทำให้เกิดกรรมอำพรางญาณรู้ในอนาคตของท่านคลาดเคลื่อนไปบ้าง โดยเห็นไปว่าหากมอบปลัดขิกแล้ว มันจะเป็นคนดีใครทำอันตรายมันไม่ได้ แต่ที่ไหนได้ การณ์กลับเป็นว่าไอ้สอนกลับนำปลัดขิกเป็นเครื่องป้องกันตนเองแล้วไปทำอันตรายคนอื่นเสียฉิบ โอหนอ กรรมตัวเดียวแท้ๆ สามารถทำให้กรรมดีแปรเปลี่ยนเป็นกรรมชั่วได้ง่ายๆ เพียงแค่ไม่นาน ดังที่โบราณบุพพาจารย์กล่าวไว้เป็นสัจธรรม

"กรรมของใคร ใครคนนั้นก็ต้องรับกรรมนั้น วัวของใครย่อมเข้าคอกคนนั้นมันจะเข้าคอกคนอื่นเป็นไปไม่ได้"
หลวงปู่เล็กรำพึงกับศิษย์ ทั้งหลายอย่างนี้เป็นเชิงปลงธรรมสังเวช และท่านก็ไม่ได้เข้าไปห้ามปรามเสือสอนแต่อย่างใดทั้งสิ้น ปล่อยให้เป็นไปตามกระแสกรรม ของวัฏสังขาร ฝ่ายเสือสอนก็กำเริบเสิบสาน กำแหงลำพองเพิ่มศักดาเดชยิ่งขึ้นทุกวัน เพราะพลังอำนาจของอกุศลกรรมชั่ว มาแรงสนับสนุนส่งเสริมอย่างชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู

ขณะที่ขุนโจรสอนกำลังดังปานพลุแตก ก็มีขุนโจรอีกคนหนึ่งดังพอๆกัน มันคือ "เสือ เคลือบ" แห่งพยุหคีรี นครสวรรค์ ถิ่นเดียวกับเสือสอนนั่นเอง เสือเคลือบนี้ครองอิทธิพลอำนาจมืดในถิ่นมาก่อนเสือสอน อยู่ๆเสือสอนก็เป็นคลื่นลูกใหม่มาแรง ทำท่าจะุแซงขึ้นหน้าเสียแล้ว เสือเคลือบก็หมั่นไส้เป็นกำลัง แถมยังโมโหโกรธาเป็นการใหญ่ เห็นจะเอาเสือสอนไว้ไม่ได้ เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้นอกจากว่าเสือตัวหนึ่งจะเป็นกะเทยหรือตัวเมีย เสือเคลือบก็บอกตัวเองว่าเรื่องอะไรกูจะยอมเป็นตัวเมียให้เกิดโรคเอดส์ และเสือสอนก็เห็นจะไม่ยอมเป็นโรคเอดส์เช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุกระนี้เอง เสือเคลือบก็วางแผน วางขุมข่ายกำลังแบบเวียดกง ดักซุ่มยิ่งเสือสอนไม่ให้รู้ตัว แผนโหดนี้แนบเนียนแยบยลมาก ฝ่ายเสือสอนกำลังดังระเบิดก็เกิดประมาทขาดการระมัดระวังตัวเท่าที่ควร พาหมู่พวกเดินเข้ามาใน"พื้นที่สังหารหรือคิลลิ่งโซน" ที่พวกเสือเคลือบบล๊อกพื้นที่ไว้เป็นมั่นเหมาะแล้ว

ปืนทุกกระบอกของพวกเสือเคลือบ ระดมยิงสนั่นไหวเหมือนสนามรบ เรียกว่ายิงไม่เลี้ยงต้องเอาให้ตายหมดไม่เหลือหลอ ต่อให้เห้งเจียกลับชาติมาเกิด เจอกระสุนปลิวว่อนมาแบบนี้ก็ไม่มีทางรอด

พวกเสือสอนล้มระเนระนาด เป็นใบไม้ร่วง ที่ตั้งหลักได้ก็ยิงสู้เป็นอุตลุด เสือเคลือบใช้พาลาเบลลัมต่อด้าม ยิงเข้าหน้าผากเสือสอน แม่นเหมือนจับวาง เสือสอนล้มตึงทั้งยืน เสือเคลือบเข้าใจว่าเสือสอนถูกปืนตายแล้วก็ให้สัญญาณกับพรรคพวกถอยหนีไป

แต่เสือสอนไม่ตาย ลูกปืนไม่เข้า เพียงแต่มึนงงไปบ้าง จึงรวงบรวมพรรคพวกกลับรังโรจรที่บาดเจ็บก็ช่วยกันหามกลับไป เสือสอนถูกลบเหลี่ยมครั้งนี้แค้นมาก ได้ส่งสายออกสืบข่าวจนได้ความว่า พวกเสือเคลือบเป็นตัวการลอบกัดครั้งนี้ จึงวางแผนแก้แค้นอย่างชาญฉลาด ด้วยการปล่อยข่าวว่า เสือสอนถูกยิงตายเสียแล้วจากการถูกเสือเคลือบรุมยิงในวันนั้น

ได้ผล เสือเคลือบเฃื่อสนิทว่า เสือสอนโดนปืนของมันตายแน่ จึงเกิดความกำเริบดีใจ ขาดการระวังตัว เพราะเสือสอนตายไปแล้ว ก็หมดศัตรูคู่แข่งคนสำคัญในอาณาจักรนักเลง และแล้ววันตายก็มาถึงจนได้ เสือเคลือบมากินเลี้ยงงานบุญที่เขาทองอำเภอพยุหคีรี สายของเสือสอนรู้แล้วก็รายงานข่าวจี๋ เสือสอนได้ปลอมตัวมาในงานนี้รอจนเสือเคลือบกินเหล้าสนุกเฮฮาเมามายเต็มที่จึงบุกเข้าหาเสือเคลือบด้วยความแค้น

สัญชาติเสือร้าย ย่อมจะหูไวตาไว ถึงจะเมามากถึงขนาดสุนัขเลียก้นได้ แต่เสือเคลือบก็เหลือบเห็นเสือสอนเข้าจนได้ มันแทบจะหายเมาเป็นปลิดทิ้งรีบโดดเรือนหนีพร้อมกับชักปืนออกมายิงสู้แต่ยิงไม่ถูกก็เลยโกยหนีหน้าตั้ง เสือสอนกระโดดเรือนตาม ยกลูกซองแฝดยิงตูมเข้าแผ่นหลังแม่นเหมือนกับจับยัดเสือเคลือบหลังยุ่ยเป็นกระดาษล้มคว่าำหัวปักดินเลือดทะลักออกมากเหมือนน้ำพุแต่ยังไม่ตายยังพยายามตะเกียกตะกายหนี

เสือสอนกำลังบ้าเลือดก็กระโดดขึ้นนั่งคร่อมคว้าเอาอ่างดินแถวนั้นที่ชาวบ้านใส่น้ำข้าว ให้สุนัขกินใช้อ่างดินแข็งโป๊กทุบกระหน่ำศรีษะเสือเคลือบครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างโหดเหี้ยมทารุณเป็นที่สลดใจของชาวบ้านที่ดูอยู่เสือเคลือบหัวและหน้าเละจำแทบไม่ได้ตายสนิท เป็นอันว่าเสือสอนสามารถแก้แค้นได้สำเร็จ

ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและอำเภอจังหวัด ที่ทำหน้าที่ปราบปราม ก็วางแผนหยุดบทบาท ทรชนของเสือสอน ด้ายการประกาศให้เสือสอนเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดีโดยจะให้ความเป็นะรรมอย่างเต็มที่ แผนการนี้ความจริงก็คืออุบายที่จะยิงทิ้งพวกหนักแผ่นดินนั่นเอง สมัยโน้นมีนโยบายยิงทิ้งเป็นมาตรการเด็ดขาด

เสือสอนถึงคราวชะตาขาด หลงกลด้วยพาซื่อจึงยอมมอบตัวเพื่อจะต่อสู้คดี แต่แล้วก็ถูกสวมกุญแจมือลากเข้าป่าเอาตัวไปยิงทิ้ง แต่ปืนยิงไม่ออก นัดแล้วนัดเล่า เพราะอานุภาพของปลัดขิกปกป้องคุ้มครองนั่นเอง ตำรวจโมโหมากจึงรุมตีรุมแทงด้วยด้ามปลายปืนล้มลุกคลุกคลาน แต่เสือสอนก็ไม่มีบาดแผล แม้แต่สักเท่ารอยแมวข่วน

พวกเจ้าหน้าที่มือปราบอับจนปัญญา ถึงปรึกษากันได้ความสรุปว่ามีสองอย่างเท่านั้นที่จะทำให้เสือสอนสิ้นฤทธิ์ดับจิดไปอยู่นรกได้คือ จับคอกดให้จมน้ำหายใจไม่ได้ต้องตายแน่หรือไม่ก็เอาไม้ไผ่ไม้รวกเสี้ยมปลายให้แหลมยาวสัก1วา ตอกทอยเข้าทวารหนัก ทุกคนลงมติเห็นด้วยในประการหลัง

ในที่สุดเสือสอนก็ถูกแทงด้วยไม้รวกโตเท่าข้อมือเด็ก และยาว 1วาเสี้ยมปลายแหลมตอกปั๊กๆเข้าทวารหนัก เจอเข้ารูปนี้เสือสอนก็ปากอ้าตาเหลือกลานร้องลั่นเหมือนวัวเหมือนคลายเพราะไม้รวกไหลลื่นเข้าไปในร่างกาย ทะลุออกกลางกระหม่อมหมดลมหายใจไปนรกอย่างทุกลักทุเลสิ้นดี

นี่คือบทเรียนของพวกนักเลงร้ายไอ้โจรสมควรจะจดจำ แต่ก็แปลกไม่เคยมีโจรร้ายนักเลงดังคนไหนจดจำเลย ยังคงทำซ่ามาทุกยุคทุกสมัยและก็ตายด้วยวิะีนี้เรื่อยมาเพราะความหนังเหนียวคงกระพันเป็นเหตุ

ชื่อร้าน :

เบอร์โทรศัพท์ :

085-8798569

จำนวนผู้ชมขณะนี้ :

ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด