ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :5,438
พะยองคำ” ด้วนกรรมวิธีการสร้างที่ลึกล้ำพิสดารและวิชาอาคมบวกกับพลังจิตที่แกร่างกล้าของท่าน จึงทำให้สีผึ้งนี้มีอิทธิคุณวิเศษมากมายเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้นำไปใช้จนกลายเป็นยอดปรารถนาของทุกคนที่ดั้นด้นขึ้นไปกราบแม้ว่าหนทางจะยากลำบากเพียงใด ก็หาใช่อุปสรรคในการเดินทางสู่เมืองในหมอกนี้เลย คหบดีเศรษฐี พ่อค้าชาวจีนชาวไทยที่ได้ยินกิตติศัพท์ความแกร่งกล้าในวิทยาคมของท่าน ลงทุนเช่า ฮ. จากเชียงใหม่ลัดฟ้าสู่เมืองสามหมอก เพื่อมาบูชาสีผึ้งของท่านกันเลยทีเดียว
เล่ากันว่าสีผึ้งพะยองคำที่ท่านได้สร้างขึ้นนั้นมีกรรมวิธีในการทำลึกลับพิสดารมาก ดังได้รับฟังเรื่องเล่ามุขปาฐะจากเฒ่าผู้แก่ที่เคยได้ทันเห็นและเป็นลูกศิษย์ในองค์ท่าน ได้เล่าไว้ว่าสีผึ้งท่านนั้นหุงขึ้นด้วยขี้ผึ้งอาถรรพ์และยาสำคัญ๖ชนิดที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงมากจนคิดว่าในสมัยปัจจุบันคงไม่มีใครมีความอดทนสูงเพียงนั้นเลยเชียว และว่านสำคัญชนิดต่างๆที่ท่านได้ปลูกไว้เป็นสวนว่านยา สำคัญชนิดที่ต้องมีคนเฝ้าไม่ให้ใครเข้าไปกันเลยทีเดียว สีผึ้งพะยองคำพะยองคำท่านนั้นมีกรรมวิธีการสร้างกว่าจะสำเร็จต้องอาศัยสถานที่ถึงสามที่ หุงกันถึงสามครั้งเลย เมื่อแรกเริ่มท่านทำพิธีหุงต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถนัยว่าเป็นสถานที่ทำสังฆกรรมและเป็นสถานที่เกิดใหม่ของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จหนึ่งครั้งจากนั้นนำไปหุงตรงสามแพร่ง นัยว่าเป็นสถานที่คนมารวมกันพูดคุยหัวเราะกัน เป็นสถานที่นัดพบกัน หุงจนกว่าจะมีคนมาถามว่า “ครูบาทำอะไร” ท่านก็จะตอบว่า “ทำยาวิเศษโอสถทิพย์” ที่บันดาลให้คนที่พกพามีความร่ำรวย เป็นมหาเสน่ห์อย่างยิ่ง ถึงจะสำเร็จอีกหนึ่งครั้ง พิธีสุดท้ายที่ท่านทำพิธีก็คือท่านให้ลูกศิษย์ท่านสืบเสาะฟังข่าวว่ามีผู้หญิงตายท้องกลม ที่เป็นลูกหัวสาวผู้ชาย(ลูกคนแรกผู้ชาย)ฝังไว้ในปาช้าไหนบ้าง เมื่อทราบแล้วท่านก็จะไปทำพิธีเซ่นสรวงบัดพลีแล้วให้ลูกศิษย์ท่านขุดนำศพผีตายท้องกลมนั้นลุกขึ้นนั่งแล้วเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ให้พร้อมทั้งผัดหน้าทาแป้งให้ศพนั้น แล้วให้ลูกศิษย์ท่านผู้เป็นชายพรหมจรรย์ มีหน้าตาหล่อเหลาดูดี มีอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าไปโอบกอดศพนั้นจากข้างหลัง แล้วนำขันสำริดที่บรรจุสีผึ้งนั้นวางบนมือผีโดยมีมือของผู้ชายนั้นซ้อนอยู่ อีกข้างก็ให้ถือไม้คนสีผึ้งโดยมีมือของผู้ชายนั้นซ้อนอยู่เช่นกัน
เมื่อเริ่มพิธีก็ให้ชายนั้นประคองมือศพนั้นคนสีผึ้ง โดยมีท่านครูบายืนบริกรรมคาถาอยู่ข้างๆ สักพักก็ให้ชายคนนั้นปล่อยมือจากศพผีตายท้องกลมนั้น ปล่อยให้ผีนั้นคนสีผึ้งเองอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง เมื่อผีนั้นคนสีผึ้งไปพลางก็จะยกขึ้นพลาง นัยว่าจะซดสีผึ้งนั้นซึ่งเชื่อว่าเป็นยาโอสถทิพย์สุดวิเศษ ซึ่งถ้าผีนั้นซดสีผึ้งนั้นได้ก็จะกลายเป็นผีดิบอมตะยากแก่การปราบปราม เมื่อผีนั้นยกขึ้นจนใกล้ปากที่สุด ก็จะแย่งเอาขันสีผึ้งจากมือผีนั้น แล้วก็สะกดให้กลับลงไปนอนในโลงอย่างเดิม เป็นอันเสร็จพิธีการสร้างสีผึ้งพะยองคำอันวิเศษสุดตามกรรมวิธีของท่าน เมื่อมีคนทราบว่าท่านทำ พะยองคำ ก็จะมีคนมาขอบูชาจากท่านกันเยอะแยะมากมาย แต่การจะได้บูชาพยองคำของท่านนั้น หาใช่ใครมีเงินก็จะบูชาเอาทีละเยอะๆได้ เพราะท่านให้บูชาแค่คนละ 1 ตลับ (ตลับเงินเล็กๆ) และให้บูชาแพงมาก โดยให้บูชาตลับละ 100 บาท ในสมัยที่ทองคำบาทละไม่ถึงร้อน ใครมีเงินไม่ถึง 100 บาท ก็จะขอแบ่งทีละ 5 แถบ (5 รูปี) บ้าง 10 บาทบ้าง โดยท่านจะนำหูเข็มเย็บผ้าปักลงไปแล้วงัดขึ้น ติดขึ้นมาเท่าไหร่ก็เท่านั้น เป็นราคา 10 บาท หรือ 5 รูปี และต้องนำตลับเงินหรือตลับทองคำมารับในกรณีที่มารับกับครูบาท่านโดยตรง แต่ส่วนมากมักจะร่วมเงินกันบูชา 10 คน คนละ 10 บาท ก็จะได้ 1 ตลับแล้วมาแบ่งกัน ดังนั้นจึงพบเห็นว่าสีผึ้งพะยองคำนี้มักจะบรรจุอยู่ในตลับยาหม่องเก่าๆ อยู่เสมอ สีผึ้งพะยองคำท่านครูบานั้นเท่าทีได้ค้นประวัติในช่วงชีวิตของท่าน ได้สร้างอยู่ 3 ครั้ง ครั้งแรกมีวรรณะสีดำ มีทองคำระยิบระยับ เป็นทองคำชนิด นำทองแท่งมาฝนเป็นผงละเอียดใส่ลงไป บางที่ปรากฏเม็ดพลอยเล็กๆ หรือก้อนเงินแท้อยู่ในตลับ ครั้งที่สอง มีวรรณะออกสีแดงๆ จากผงชาด(หาง) มีทองคำอยู่ประปรายพอให้สังเกตเห็นไม่มาก ครั้งที่สาม สันนิษฐานว่าท่านทำพิธีหุงครั้งสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2494 มีวรรณะ ออกสีดำใสๆ มีกากยาหยาบๆ มีทองคำเปลวโบราณชิ้นใหญ่อยู่มาก นับเป็นรุ่นสุดท้ายที่ท่านได้ทำพิธีหุงสีผึ้งวิเศษนี้ กลางปี พ.ศ. 2495 ท่านได้อาพาธด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงและลำคอ แพทย์ได้เจาะคอท่าน โดยให้อาหารผ่านสายยาง ท่านอาพาธด้วยโรคมะเร็งแต่ทรงกับทรุดมาเรื่อยๆ จนท่านได้ถึงแก่มรณภาพ วันพฤหัสบดี ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2496 สิริอายุ 67 ปี 46 พรรษา ยังความโศกเศร้าเสียใจแก่ศรัทธา ผู้ที่มีความเคารพเลื่อมใสในองค์ท่าน และ ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก