ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :11,800

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
พระเหนือพรหม ชัยมงคลคาถา (ผ่อสักบารมี อันดับ ๑ ของเมืองไทย) หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี17
ราคา :
โชว์เครื่องราง
รายละเอียด :

***** เรื่องอาม่าที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม..,กับหลวงปู่ดู่..,จะได้รู้ว่าผ่อสัก (พระโพธิสัตว์) ของเมืองไทย..,บารมีใหญ่จริง!!! *****

https://www.facebook.com/photo.php…&...

พระเหนือพรหม ชัยมงคลคาถา (ผ่อสักบารมี อันดับ ๑ ของเมืองไทย) หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี17 ขอโชว์!!!

พระพิมพ์พระพุทธเจ้าเหนือพรหม หลวงปู่ดู่ วัดสะเเก อยุธยา ปี2517 พระพุทธเจ้าเหนือพรหมสร้างจากชัยมงคลคาถาบทที่ว่าด้วยพระพุทธเจ้าโปรดท้าวพกาพรหม ซึ่งนับเป็นพระพิมพ์เอกลักษณ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พระพิมพ์นี้เป็นที่นิยมสูงสุดในเนื้อผงมาช้านาน พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่เริ่มเทคราแรกปี 2517 ซึ่งสร้างเป็นพิมพ์ไม่มีขอบก่อน ภายหลังได้ดัดแปลงเป็นพิมพ์มีขอบต่อมา พระพุทธเจ้าเหนือพรหมองค์นี้สภาพคัดสวย สุดจี๊ด!!!
“บุญเป็นของพึ่งได้จริง” พุทธคุณและปาฏิหาริย์ของพระเหนือพรหม ของหลวงปู่ดู่ ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงพ่อดู่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าพระเหนือพรหมของหลวยงพ่อ ใครมีไว้บูชา เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดีคนดวงตกก็รอดได้ ผู้ใดได้ไข้ได้เจ็บก็หายผี และปีศาจร้ายมิอาจกล้ำกราย คุณไสยมนต์ดำการกระทำย่ำยีมิอาจครอบงำ ผู้ใดเป็นศัตรูคิดร้าย จะพินาศด้วยวิบากกรรมของตนเอง บูชาติดตัวไว้ เทพ พรหม เทวดาและมนุษย์รักใคร่เมตตาปราณี ถ้าถึงเวลาหมดอายุจิตสงบพบทางสว่างมีสุขคติเป็นที่ไปผู้ที่มีพระเหนือพรหม ของหลวงพ่อองค์เดียวก็เกินพ
อยากให้อ่านให้จบ..,แล้วจะซึ้งถึงใจท่านขนาดไหน..,ลองอ่านดูนะครับ สาธุจ้าววว
บารมีหลวงปู่ดู่ช่วยชีวิตเด็กน้อย
***********************ลูกของนายคงอยู่กับนายได้ไม่นานไม่ถึง2ฝนจะต้องตกน้ำเป็นตายร้ายดียังบอกไม่ ได้ แต่ถ้ารอดไปได้ฝนที่5จะต้องถูกสัตว์ร้ายด้วยเขี้ยวงา ตายหรือเป็นฟ้าดินกำหนดแต่ถ้ายังไม่วายชีวา ฝน7จะต้องอาวุธร้ายเป็นตายกำหนดยาก ถ้ารอดไปได้ถึงฝนเก้าเทวดาก็ช่วยยาก

ตำราท่านว่าดวงตกร้ายถึงปานนี้เทวดาช่วยไม่ได้ พระอรหันต์ท่านยังต้องวางเฉย แต่ผู้มีบุญใหญ่ช่วยได้ ผมถาม"ลุงครับผู้มีบุญกว่าพระอรหันต์ ผมจะหาได้ที่ไหนหล่ะ" https://www.facebook.com/photo.php?fbid=387374408040787&set=a.202866439824919.66709.104053099706254&...
วันหนึ่งมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง มาบอกว่า ที่ วัดสะแกเกิดปาฏิหาริย์ คนกรุงเทพฯ จะมาเป็นเจ้าภาพกฐินเพื่อซ่อมหลังคาโบสถ์อยู่ ๆ ภาพหลวงปู่ทวด หลวงพ่อดู่ ก็ปรากฏขึ้นตามองค์พระพุทธรูปที่ฉัตรหน้ากุฏิหลวงพ่อดู่ ก็มีเทวดาอยู่ตามชั้นของยอดฉัตรเต็มไปหมด ผมถามเพื่อนว่าขนาดมีเทวดาเชียวหรือ นึกว่าเทวดามีแต่ในหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ และผมก็พาลูกชายกับภรรยาไปวัดสะแก แต่ก็ไม่ได้มีความหวังอะไรมากนัก ไปทำบุญเหมือนกับวัดอื่น ๆ ที่เคยไปทำบุญมา ผมไปถึงวัดหลังเพล พระท่านฉันเพลแล้ววันนั้นมีคนไปทำบุญมากพอสมควร ผมและภรรยาทำบุญ ใส่ตู้กฐินคนละหนึ่งร้อยบาท ส่วนลูกชายผมเขาล้วงเงินในกระเป๋ากางเกงของเขาแต่เขามีเงินอยู่เพียงห้าบาท ผมเห็นเขาเอาเงินใส่ตู้กฐินและยกมือขึ้นไหว้ เห็นดังนั้นผมก็บอกเขาว่าเดี๋ยวพ่อให้ร้อยหนึ่ง แล้วไปใส่ตู้ใหม่นะลูก พอดีมีคนสองคนเดินผ่านมา คนหนึ่งพูดว่า "รีบไปกันเถอะหลวงพ่อดู่จะถึงเวลาจำวัตรแล้ว"

พอผมได้ยินว่ารีบไปกันเถอหลวงพ่อดู่จะถึงเวลาจำวัตรแล้ว ผมหันมาบอกภรรยา "เรารีบไปหาหลวงพ่อก่อนเถอะ" เราทั้งสามคนก็ไปที่กุฏิหลวงพ่อดู่ มีคนอยู่ก่อนแล้วสิบกว่าคน ผมพาภรรยาและลูกเข้าไปใกล้ท่าน และกราบท่านสามครั้ง ท่านเห็นเราทั้งสาม ท่านก็ยิ้มอย่างเมตตา

ผมพูดบอกท่านว่า “หลวงพ่อครับ ผมพาลูกชายมาให้หลวงพ่อเมตตาสะเดาะเคราะห์ให้เขาครับ" ผมทำท่าจะเล่าความเป็นมาของลูกชายผมให้ท่านฟัง ท่านก็ยกมือขึ้นห้าม แล้วท่านพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว แกไม่ต้องบอกหรอก” ผมนึกในใจยังไม่ได้เล่า ท่านจะรู้ได้อย่างไร ผมถามต่อ “หลวงพ่อครับผมต้องเตรียมอะไรบ้างครับ” ท่านตอบ “ไม่ต้องเตรียมอะไร” ผมร้อง “อ้าว แล้วจะทำอย่างไร"

ผมก็พูดต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอให้ลูกชาย เอาเงินไปใส่ตู้กฐินทำบุญก่อนนะครับ” ท่านพูดว่า “ห้าบาทก็เกินพอแล้ว” ท่านเรียกลูกชายผมเข้าไปใกล้ๆ แล้วบอกเขาว่า "เดี๋ยวเวลาข้าให้พร แกก็พูดว่า พรใด ๆ ที่ได้นี้ขอให้ติดตามข้าตลอดไป แกเข้าใจไหม” เขาตอบท่านว่า “เข้าใจครับ” และหลวงพ่อก็เริ่มให้พร ลูกผมก็พูดตามที่ท่านสอน ไม่ถึงห้านาที ท่านลืมตาขึ้นแล้วบอกว่า "เสร็จเรียบร้อย" ผมถามท่านทันทีว่า “เสร็จแล้วหรือครับหลวงพ่อ” ท่านตอบ “ก็เสร็จนะสิ” ผมบอกท่านว่า "ไปมาหลายที่ ทุกวัดเขาทำกันตั้งนาน ให้นอนในโลงศพบ้าง อาบน้ำมนต์ก็มีสารพัดวิธี บางทีเป็นชั่วโมงก็เคย" ท่านตอบว่า “ข้าไม่ต้องตั้งท่ามาก” ท่านหันไปพูดกับลูกชายผมว่า “เอ็งมันดวงไม่เหมือนชาวบ้านเขา เอาพระเหนือพรหมของข้าไปติดตัวไว้” ผมบอกท่านอีกว่า “หลวงพ่อครับ หมอดูบอกว่ลูกชายผมจะอยู่ไม่เกินเก้าขวบ” ท่านก็ว่า “ข้าไม่ใช่หมอดู แต่ข้าบอกว่าไม่ตายก็ไม่ตายหรอกแก” ผมคิดในใจว่าจะเชื่อได้มากแค่ไหนก็ยังไม่รู้ มีลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งฟังอยู่ใกล้ๆ เขาพูดกับผมว่า "แต่ โบราณมาเชื่อกันว่า พระพรหมเป็นผู้ลิขิตชีวิตมนุษย์ให้ดีร้าย ยากจน หรือร่ำรวยและมีชีวิตอยู่ยืนยาวหรือสั้นก็ตามแต่ท่านจะลิขิต

หลวงพ่อดู่ของพวกเราสอนว่า “ใครจะใหญ่เกินกรรม” ท่าน ให้พวกเราทำแต่กรรมดี พี่ไม่ต้องกลัวลูกชายตายหรอก เพราะหลวงพ่อท่านให้พระเหนือพรหมเขาไปแล้ว และอีกอย่างหนึ่งพี่กับลูกทำบุญกฐินปีนี้กับหลวงพ่อ ท่านบอกว่ากฐินปีนี้เป็นบุญใหญ่ แม้แต่เทวาเทพ พรหม ยังมาร่วมอนุโมทนาด้วยเลย" ใคร ๆ เขาก็เห็นกันทั้งวัด ผมก็เห็นเหมือนกัน ผมเกิดมาไม่เคยเห็นหลวงปู่ทวด วันนี้มาวัดสะแกก็ได้เห็นเป็นบุญตา เราสามคนลาหลวงพ่อดู่กลับ ท่านก็พูดว่า “บุญเป็นของพึ่งได้จริง” ผมนึกในใจเคยได้ยินคำพูดนี้ที่ไหน นึกไม่ออก

เขาบอกว่าเวลาใดผ่านไปนานหลายปี ทุกวันนี้เขายังคิดถึงหลวงพ่อดู่อยู่ตลอด เพราะท่านมีพระคุณกับครอบครัวของเขามากเหลือเกิน หลวงพ่อดู่ท่านละสังขารไปนานแล้ว แต่ท่านจะอยู่ในใจของเขาตลอดไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่

ผู้เขียนพบกับเขาที่วัดสะแก เมื่อปี พ.ศ.2540 เขาบอกว่า ลูกชายทำบุญเพียงห้าบาทกับกฐินครั้งนั้น หรือเป็นเพราะหลวงพ่อดู่ท่านให้พร หรือเพราะพระหรหมของหลวงพ่อ ที่ลูกชายผมห้อยคอจนถึงทุกวันนี้จึงทำให้เขารอดชีวิตมาถึงปี พ.ศ.2540

พุทธคุณและปาฏิหาริย์ของพระเหนือพรหม ของหลวงปู่ดู่ ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงพ่อดู่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าพระเหนือพรหมของหลวยงพ่อ ใครมีไว้บูชา เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี คนดวงตกก็รอดได้ ผู้ใดได้ไข้ได้เจ็บก็หายผี และปีศาจร้ายมิอาจกล้ำกราย คุณไสยมนต์ดำการกระทำย่ำยีมิอาจครอบงำ ผู้ใดเป็นศัตรูคิดร้าย จะพินาศด้วยวิบากกรรมของตนเอง บูชาติดตัวไว้ เทพ พรหม เทวดาและมนุษย์รักใคร่เมตตาปราณี ถ้าถึงเวลาหมดอายุจิตสงบพบทางสว่างมีสุขคติเป็นที่ไปผู้ที่มีพระเหนือพรหม ของหลวงพ่อองค์เดียวก็เกินพ

หลวงปู่ดู่ ท่านย้ำเสมอว่า บางคนแม้แขวนพระที่ผู้ทรงคุณวิเศษอธิษฐานจิตให้ ก็ใช่ว่าจะรอดปลอดภัย อยู่ดีมีสุข

เพราะทุกคนไม่อาจหลีกหนีวิบากกรรมที่ได้สร้างไว้ ธรรมทั้งหลายที่ท่านพร่ำสอน เปรียบได้กับการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามบนดวงใจของศิษย์ ที่ท่านทุ่มเทให้ทั้งชีวิต ด้วยเมตตาธรรมยิ่ง

ปัจจุบันวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของหลวงปู่ดู่ ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม โดยเฉพาะ "พระเหนือพรหม" ซึ่งเป็นพระที่มีลักษณะที่แตกต่างกว่าพระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่พบโดยทั่วไป

มูลเหตุและแรงจูงใจในการสร้างพระเหนือพรหมของหลวงปู่ดู่ นั้น มาจากบทพระพุทธมนต์ "พาหุงมหากา" ในบทที่ 8 กล่าวไว้ว่า ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะ

แปลได้ว่า เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุด แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถทำให้ผกาพรหมยอมละทิ้งทิฏฐิมานะ และยอมว่าพระพุทธเจ้าสูงกว่า จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะทิฏฐิมานะของตน

"พรหม" หมายถึงผู้มีนามว่า "ท้าวผกา" มีฤทธิ์และสำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีทิฏฐิที่ถือผิดรัดรึงอยู่อย่างแน่นแฟ้น องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ด้วยวิธีเทศนาญาณ ด้วยเดชะอันนี้ ซึ่งหลวงปู่ดู่ซาบซึ้งในบทพระพุทธ มนต์บทนี้ จึงจัดสร้าง "พระเหนือพรหม" ขึ้น

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ (พ.ศ. ๒๔๔๗ – ๒๕๓๓) ท่านเกิดที่ อ. อุทัย จ. พระนครศรีอยุธยา ท่านกำพร้าแต่ยังเด็ก ต่อมาได้อุปสมบทที่ วัดสะแก โดยมีหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการามเป็นพระอุปัชฌาย์ รับฉายาว่า "พรหมปัญโญ" ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรม, วัดกลางคลองสระบัว, และวัดนิเวศธรรมประวัติตามลำดับ

หลวงปู่ดู่ท่านมีความเคารพนับถือหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดเป็นพิเศษ ว่าหลวงปู่ทวดท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะได้มาตรัสรู้ในอนาคต และท่านก็ได้สร้างพระเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ยึดเหนี่ยวไว้เป็นกำลังในการ ปฏิบัติธรรม หลวงปู่ดู่ท่านเคยพูดว่า

"ติดวัตถุมงคลยังดีกว่าที่จะไปให้ติดวัตถุอัปมงคล"

หลวงปู่ดู่ท่านได้ทิ้งมรดกทางธรรมที่สั้นๆ เข้าใจง่าย แต่ลึกซึ้งไว้มากมายอาทิเช่

"พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ไตรสรณคมน์นี่แหละ พระดี, คนเรานี่ก็แปลก ข้าให้ของจริงกลับไม่เอา จะเอาของปลอม"

"เอางานคือการปฏิบัติธรรมเป็นงานหลักของชีวิต เป็นการงานที่แท้จริงของชีวิต"

"ตราบใดก็ตามที่แกยังไม่เห็นความดีในตัว ก็ไม่นับว่าแกรู้จักข้าแต่ถ้าเมื่อใดที่เริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้วเมื่อ นั้นข้าว่าแกรู้จักข้าดีขึ้นแล้ว"

"ขอให้ลงมือทำทันที ข้ารับรองว่าต้องสำเร็จ ส่วนจะช้าหรือเร็วนั้น อยู่ที่ความเพียรของผู้ปฏิบัติ"

"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือ กรรม"
"คนดีน่ะเขาไม่ตีใคร"
"ของดีอยู่ที่ตัวเราหมั่นทำ (ปฏิบัติ) เข้าไว้"
"ให้หมั่นดูจิตรักษาจิต"
"ให้หมั่นพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
"ที่แกปฏิบัติอยู่ ให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เพื่อข้า แต่เพื่อตัวแกเอง"

"ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การอ้อนวอนพระเจ้ามาประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้ว ทุกอย่างต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ, พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้วครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่ สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิท่านก็กลายเป็นพระธาตุกันหมด, เมื่อได้ไตร่ตรองพิจารณาให้รอบคอบแล้วขอให้ลงมือทำทันที ข้ารับรองว่า ต้องสำเร็จ ส่วนจะช้าหรือเร็วนั้นอยู่ที่ความเพียรของผู้ปฏิบัติ"

บ่อยครั้งที่มีผู้ถามปัญหากับหลวงปู่ โดยมักจะนำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน สามี ภรรยา ลูกเต้า ญาติมิตรหรือคนอื่นๆ มาปรารภให้หลวงปู่ฟังอยู่เสมอ, ครั้งหนึ่งท่านได้ให้คติเตือนใจว่า

"โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม" ซึ่งต่อมาท่านได้ให้ความหมายว่า

เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง, ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องกลับเข้ามาหาตัวเองถ้าเป็นโลกแล้วจะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา ธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดจากในตัวเรานี้ทั้งนั้น"

และสอนเรื่องการทำบุญ แบบประหยัดว่า

"บุญนั้น หมั่นทำเข้าไว้คนไหนที่เขาทำดีอะไรก็ตาม โมทนาไปเลย ไม่มีเสีย มีแต่ได้ อย่าไปขัดเขา, เวลาเดินผ่านไปไหน เห็นดอกไม้เราก็นึกถวายพระ ของอะไรก็ตามนึกถวายพระได้บุญทั้งนั้น, เวลาจะเปิดไฟ ถ้าอยากได้บุญก็ว่า โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ก็ได้แล้ว"

ส่วนเรื่องวัตถุมงคลของท่านนั้นหลวงปู่ดู่ท่านยืนยันว่

"ข้าว่า ของๆ ข้า ไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน อยู่ที่คนนำไปใช้ว่าถึงหรือเปล่า ถ้าถึงจริงๆ แล้ว ก็ไปนิพพานได้" (หมายถึงช่วยเป็นกำลังใจในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี นั่นเอง)

แม้แต่หลวงพ่อเกษม ท่านก็ยังเคยแนะนำให้ลูกศิษย์ท่านไปกราบหลวงปู่ดู่ และหาพระเปิดโลกของหลวงปู่ดู่มาบูชา ท่านว่าพระรุ่นนี้กันนิวเคลียร์ได้ ทั้งๆ ที่ท่านไม่เคยไปมาหาสู่กับหลวงปู่ดู่เลย

หลวงปู่ดู่ท่านปฏิบัติในแนวของพระโพธิสัตว์ญาณเช่นเดียวกับหลวงปู่ทวด ท่านจึงเปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อสรรพสัตว์ไปโดยไม่มีประมาณ จะเห็นได้จากท่านได้งดกิจนิมนต์เป็นเวลาถึง ๔๓ ปี นับแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ตราบจนวันที่ท่านละสังขาร โดยทุกวันนับแต่ตี ๕ จนถึงดึกดื่น ท่านก็ได้ออกมาสั่งสอนลูกศิษย์ที่เดินทางมาจากทุกสารทิศโดยไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง ท่านก็มีความเมตตาอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันหมด ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดมาหาท่าน หลวงปู่ดู่ท่านก็อนุเคราะห์ สงเคราะห์ไปตามเหตุปัจจัย

ด้วยอานิสงค์แห่งความเมตตาและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ดู่ ทำให้แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว ลูกศิษย์ลูกหาของท่านกลับไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น ดังมีคำสอนของท่านประโยคหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า

***** "ผู้ใดที่เคยสร้างบุญสร้างกุศลมากับข้า เคยเป็นศิษย์เป็นอาจารย์เป็นลูกเป็นหลาน สร้างบุญกุศลมากับข้ามา แม้ในชาตินี้ไม่ได้พบสังขารธรรมของข้า แต่พอพบเห็นหลักธรรมคำสั่งสอนของข้า แล้วเกิดศรัทธาคนผู้นั้นแหละเคยสร้างบุญสร้างกุศลมากับข้าเคยเป็นศิษย์เป็น อาจารย์เป็นลูกเป็นหลานของข้า ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมะภาวนาไตรสรณคมน์ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิสังฆัง สรณัง คัจฉามิ เวลาเหลืออีกไม่มากแล้วรีบพากันปฏิบัติ เพื่อจะได้ไว้เป็นที่พึ่งในภายหน้าข้าจะคอยช่วย ศรัทธาข้าจริงนับถือข้าจริง แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้าข้าก็คิดถึงแก ข้าอยู่ใกล้ๆ แกจำไว้" *****

ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
085-8798569
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด