GMT @ Thailand พี่จุก วัดสวนหลวง สมุทรสงคราม
วัดสวนหลวงตั้งอยู่ที่ บ้านแหลมสวนหลวง หมู่ที่ 1 ตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ด้านหน้าวัดติดริมฝั่ง แม่น้ำแม่กลอง เป็นวัดเก่าแก่โบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สันนิฐานว่า เชื้อพระวงศานุวงศ์ เป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้นมา อีกก็ว่า เป็นพระยาในสมัยนั้นเป็นผู้สร้าง จึงไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้ใดเป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้น จากหลักฐานของกองพุทธศาสนาบันทึกไว้ว่า ได้ตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2245
ร่วมอายุของวัดนี้แล้ว 300 ปีเศษ จึงทำให้ถาวรวัตถุในวัดหลายๆชิ้นที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ยืนยังได้ ถึงความเก่าแก่ของวัดสวนหลวง แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อจักรนารายณ์ พระพุทธรูปโบราณปูนปั้น ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดิษฐ์สถานอยู่ในอุโบสถ เจดีย์โบราณสมัยกรุงศรี อยุธยาตอนปลาย ที่ตั้งอยู่ข้างอุโบสถ กุฏิสงฆ์ที่สร้างในสมัยรัชการที่ 5 แห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม พระพุทธรูปโบราณอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งทางวัดได้เก็บรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เล่าขานกันมาจนถึงปัจจุบันอีกหลายอย่าง อาทิเช่น พี่จุก กุมารเทพ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ โด่งดังไปทั่วโลก และน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากตอต้นมะม่วงที่มีน้ำขังอยู่ ตลอดเวลา ชาวบ้านเชื่อกันว่าน้ำนั้นรักษาได้ทุกโรค แต่เนื่อง จากมีกลุ่มคนบางกลุ่มได้หาผลประโยชน์ จึงทำให้ น้ำในบ่อเหือดแห้งไปปัจจุบันบ่อน้ำศักดิ์ได้เป็นที่ตั้งของศาลาการเปรียญในปัจจุบัน
พี่จุกอยู่คู่กับวันสวนหลวงมานาน นับเป็นร้อยๆปี สืบเนื่องมาว่า เมื่อประมาณ 200 ปีเศษที่ผ่านมา วัดสวนหลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง การเดินทางสัญจรในสมัยก่อนจะสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยทางเรือ การมาวัดสวนหลวงก็เช่นเดียวกัน หน้าวัดสวนหลวงจะเป็นช่วงของโค้งน้ำของลำน้ำแม่กลอง ทางธรรมชาติแล้วกระแสน้ำที่ไหลมาถึงโค้งน้ำจะมีการกัดเซาะตลิ่งทำให้ตลิ่งพังทลาย และด้วยกันนี้ตลิ่งอีกฝั่งของแม่น้ำจะเกิดการรวมตัวกันของดินที่พังทลายมาจากอีกฝั่งจากกระแสน้ำวนบริเวณที่เป็นวิหารพี่จุกในปัจจุบัน จึงทำให้เกิดดินงอก กระแสน้ำนี้เองจึงทำให้ไม้แกะสลักรูปเด็กเปลือยกายผมจุก เนื้อไม้ทำจากไม้ตะเคียนสีดำมัน สูงประมาณ 3 ฟุต มือขวาหงายฝ่ามือ ส่วนมือซ้ายคว่ำฝ่ามือ มีสายประคำสังวาลย์ห้อยคอเพียงเส้นเดียว ลอยมาติดอยู่ที่หน้าวัด แม่ค้าขายของคนหนึ่งพายเรือผ่านมาหน้าวัดได้พบเห็นไม้แกะสลักดังกล่าว ลอยน้ำมาติดอยู่ที่หน้าวัด แม่ค้าคนดังกล่าวจึงอุ้มมาให้สมภารที่วัด จากวันนั้นมาไม้แกะสลักรูปเด็กผมจุกก็ได้ตั้งอยู่กลางศาลาของวัดสวนหลวง โดยมีการโยกย้ายไปมาหลายที่
กาลเวลาผ่านไป 200 ปีเศษ ในสมัยพระครูสมุทรวิริยาภรณ์หรือหลวงพ่อปึก เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ได้ย้ายไม้แกะสลักรูปเด็กผมจุกขึ้นมาไว้บนกุฏิของหลวงพ่อปึก เนื่องจากศาลาหลังเก่าโดนรื้อถอนออกไป กุฏิหลังนี้ก็เป็นกุฏิเก่าแก่ อายุนับร้อยปี ซึ่งมีร่องรอยภาพเขียนโบราณบนเพดานกุฏิ ไม้แกะสลักรูปเด็กผมจุกคนในวัดสวนหลวงได้เรียกกันติดปากว่า เจ้าจุก
หลังจากหลวงพ่อปึกได้มรณภาพลง หลวงพ่อใหม่ ได้ขึ้นมารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้มีความคิดที่จะบุรปฏิสังขรณ์วัดสวนหลวง ซึ่งชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และอุโบสถหลังใหม่ที่หลวงพ่อปึกดำริสร้างไว้แทนอุโบสถหลังเก่า ก็ยังสร้างไม่เสร็จ กุฏิพระก็ยังไม่มี(ในขณะนั้นพระจำวัดรวมกันที่หอฉัน) เมรุเผาศพก็ยังไม่มี หอระฆังก็ยังไม่มี หลวงพ่อใหม่เองได้แต่คิดโครงการเอาไว้เท่านั้นเพราะท่านเองยังมองไม่เห็นเลยว่าจะหาทุนทรัพย์มาจากไหน งบประมาณมหาศาล ลำพังตัวท่านเองคงจะไม่ไหวแน่ๆ หลวงพ่อใหม่ท่านเล่าว่า ในคืนหนึ่ง ท่านได้สวดมนต์อยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชาบนกุฏิ เสร็จแล้วก็นั่งเจริญสมาธิ เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน ในนิมิตท่านได้ยินเสียงเด็กเรียก "หลวงพ่อ หลวงพ่อ" และได้ปรากฏร่างเป็นเด็กผู้ชายผมจุกอายุประมาณ 7-8 ขวบ ในนิมิตของท่าน และกล่าวกับหลวงพ่อใหม่อีกว่า "หลวงพ่อ สร้างรูปหนูขึ้นมาสิ หนูจะช่วยหลวงพ่อสร้างวัด" เป็นคำบอกกล่าวสั้นๆ ครั้งแรกหลวงพ่อใหม่ก็ยังไม่เชื่อเพราะว่าจะเอารูปเด็กแก้ผ้ามาให้คนบูชาก็ยังไงอยู่ หลวงพ่อก็ยังไม่ได้สร้างพี่จุกขึ้นมา หลังจากนั้น ในนิมิตยังมีเสียงเด็กมาบอกอยู่อีกหลายครั้ง หลายคราวว่า
"หลวงพ่อทำไมไม่ทำรูปหนูละ หนูจะช่วยหลวงพ่อสร้างวัด"
จนหลวงพ่อตัดสินใจสร้างขึ้นมา โดยสร้างครั้งแรกหลวงพ่อได้จัดสร้างจำนวน 259 องค์ ได้ทำการอธิษฐานจิตเดี่ยวโดยการสัญญากับพี่จุกว่าไม่ต้องนิมนต์ใครมาปลุกเสก ให้อธิฐานจิตเพียงคนเดียวก็พอในพรรษานั้นหลวงพ่อใหม่ได้อธิฐานจิตเดี่ยวเป็นเวลาสามเดือน ก่อนจะนำพี่จุกออกมาให้บูชา พอนำออบูชาเพียงไม่นานก็หมด เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้น หลวงพ่อก็ได้จัดสร้างพี่จุก ออกมาอีกหลายรุ่น จนในปัจจุบัน วัดได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ จากวัดที่ใกล้จะร้างจนเป็นวัดที่เจริญขึ้นมาอีกครั้ง เงินที่ได้มาส่วนใหญ่ในการสร้างวัด ได้มาจากการแก้บนของผู้คนที่ได้บนบานสารกล่าวขอจากพี่จุกแล้วสำเร็จสมดังสิ่งที่หวังไว้ ไม่ว่าจะเป็นขอในเรื่องค้าขายก็ดี ขอในเรื่องโชคลาภก็ดี ขอในเรื่องหน้าที่การงานก็ดี แม้กระทั่งในเรื่องคู่ครอง ก็สำเร็จดังใจหวังทุกราย แม้กระทั่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ภาค และพี่จุกองค์จำลองที่ให้กราบไหว้นั้น ก็เป็นศรัทธาจากเงินแก้บนของ
พี่จุกนั่นเอง
เหตุที่ทำให้ต้องชื่อว่า พี่จุก นั้น มีอยู่ว่า ในนิมิตของหลวงพ่อใหม่ที่ได้ยินเสียงของเด็กชายดังกล่าว ได้เอ่ยออกมาว่า
"ฉันไม่ใช่หนูจุก ฉันอายุเยอะแล้ว ให้เรียกฉันว่าพี่จุก"
ซึ่งองค์จริงก็มีอายุกว่า 200 ปี จึงเป็นไปได้ว่าพี่จุกมีอายุเยอะ จนที่จะเรียกได้เกินกว่าคำว่า "พี่"
เรื่องปาฏิหาริย์ของ พี่จุก กุมารเทพ สามารถแบ่งออกได้ เป็นหลายแขนงด้วยกันเริ่มจากอย่างแรก ปาฏิหาริย์ทางด้านโชคลาภ ผู้ที่ได้โชคลาภจากพี่จุกมีเยอะแยะมากมาย บ้างก็เกิดจากการบนบานศาลกล่าว บ้างก็เกิดจากการขอกับพี่จุกตรงๆ บ้างก็ได้มาแบบลอยๆหรือที่เรียกว่าลาภลอย แบบที่สองจะเป็นทางด้านค้าขาย พ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่ จะขอพี่จุกให้ช่วยเรียกลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนสินค้าในร้าน บ้างก็ขอแบบระบุจำนวนยอดที่จะได้ บ้างก็บนขอให้ทำยอดให้ถึงที่หวัง แบบที่สามเป็นเรื่องทั่วไปเพราะว่าพี่จุกมีแต่ให้ ขอให้สอบได้ ขอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ขอให้ช่วยเหลือยามตกทุกข์ได้ยาก พี่จุกก็ให้สมดังหวังทุกอย่าง ดังจะเห็นได้จากถาวรวัตถุที่อยู่ในวัดสวนหลวง ก็ได้มาจากเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาในองค์พี่จุกทั้งสิ้น
เหตุที่เรียกพี่จุก กุมารเทพ เพราะว่า พี่จุกต่างจากกุมารทั่วๆไป ซึ่งกุมารทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นการพลีมาจากผงเถ้ากระดูกของมนุษย์แล้วบรรจุวิชาอาคมลงไปที่องค์กุมาร แต่พี่จุก กุมารเทพ เป็นร่างทิพย์ กายทิพย์ ที่สั่งสมบุญ บารมี โดยมาในรูปของไม้แกะสลักรูปเด็กผมจุก ดังนั้นกายทิพย์ของพี่จุกจึงมีมาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะมาในร่างเด็ก มาในร่างหนุ่ม หรือมาในร่างของผู้สูงวัย ล้วนแล้ว พี่จุกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่นับถือท่านและเชื่อว่าท่านมีจริง
วรพงษ์ เอี่ยมละออ (โก้ แม่กลอง) ผู้ค้นคว้าและเรียบเรียง
คาถาบูชาพี่จุก กุมารเทพ
ให้ท่านจุดธูป 9 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ
กายะพุทโธ นามะพุทโธ นิมิตพุทโธ สุญยะพุทโธ อะระหังพุทโธ ภะคะวาติ
พี่จุกไม่ให้โทษแม้จะไม่บูชาท่านแล้วก็ตาม ถามว่าเข้าตัวใหม ไม่เข้าตัวครับ ย้ำ ไม่เข้าตัว
เพราะพี่จุกท่านเป็นเทพ ไม่ใช่คุณไสย หรือมนต์ดำ
เวลาท่านเดินทางไปพักที่อื่น ไปใหนก็แล้วแต่ พี่จุกเข้าได้ทุกที่อยู่แล้ว ไม่ต้อง ไปจุดธูปซะทุกที่ที่ไป
เดี๋ยวคนอื่นจะว่าท่านเป็นคนบ้าเอา เอาที่เราสดวก ไม่เดือดร้อนผู้อื่น หมั่นทำความดี รักษาศิล หมั่น ทำบุญ ทำทาน มากหรือน้อยก็แล้วแต่ท่านจะปฏิบัติ ทำมากท่านได้มาก ทำน้อยท่านได้น้อย