ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :11,372
“”.. สุดยอดปลัดขิกยอดนิยมอันดับหนึ่งเมืองไทย ..””
ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทรา (ศิลป์หัวกระจ่า)
ตัวนี้เป็นไม้คูณ ศิลป์หัสกระจ่ายุคต้น สภาพผ่านการใช้ เก่า มันส์ ลึก ปึ้ก!! ขนาด 1.5 นิ้ว หุ้มเงินเก่าคลาสสิคมากครับ ยังพอเห็นจาร M (อุ) ลางๆ ครับ ใส่หลอดหุ้มปลอกทองลงยาสวยงามทรงคุณค่าครับ
ปลัดขิกของหลวงพ่อเหลือนั้นใช้ดีทางเมตตามหานิยมและคงกระพัน ท่านโด่งดังทางด้านปลัดขิก สมัยนั้นแม่ค้าจะมาขอปลัดขิกของท่านเพื่อช่วยในการทำมาค้าขาย ส่วนผู้ชายนำไปใช้ทางมหานิยม ติดตัวไว้ไม่ตายโหง ซึ่งผู้ชายนิยมร้อยเชือกแขวนไว้ที่เอว และพ่อค้าแม่ขายนิยมนำไปเป็นของขลัง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทำมาค้าขึ้นประสบการณ์จากผู้ที่บูชาเท่าที่ทราบนั้น ลือเลื่องของเมตตามหาเสน่ห์เป็นยิ่งนัก และเรื่องของคงกระพันชาตรีก็มิใช่ย่อยเช่นกันครับ นอกจากความโด่งดังจากเรื่องปลัดขิกแล้วยังมีเรื่องเล่าว่าท่านสามารถปลุกเสกตนเองให้ลอยทวนน้ำได้ ชาวบ้านจึงพากันเลื่อมใสศรัทธาและเคารพบูชาท่านเป็นอันมาก
อานุภาพของปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ คือ ดีด้านคงกระพันและเมตตาโชคลาภเป็นยิ่งนัก แต่เป็นโชคลาภที่ได้มาจากการไม่ต้องร้องขอแต่ประการใด เป็นโชคลาภแบบอยู่เฉยๆ นิ่งๆ เดี๋ยวมาเองเดี๋ยวดีเองคนรุ่นเก่าบอกว่า หากใส่ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือเพื่อจีบสาวให้เอามาไว้ที่เอวทางซ้าย หากจะเข้าหาเจ้านายให้เอามาไว้ที่เอวข้างขวา หากเกิดเหตุคับขันให้หันเอาไว้ข้างหน้า หากจะถอยให้เอาไว้ด้านหลัง เวลาจะใช้ในการใดเมื่อหันไปถูกตำแหน่งที่ต้องการแล้วให้กลั้นหายใจว่าคาถากำกับคือบทหัวใจโจร กัณหะ เนหะ แล้วทุกอย่างจะเป็นไปสมปรารถนาทุกประการ
อีกอย่างหนึ่งชื่อของท่านเป็นที่ชื่อที่ดีมาก ใส่แล้วจะได้เหลือกินเหลือใช้ แต่สำหรับพ่อค้าแม่ขายไม่นิยมเอาปลัดขิกของหลวงพ่อเหลือไปในร้านหรือขณะขายของ เพราะกลัวเป็นไปตามชื่อของท่านคือ เหลือ หรือว่าขายของไม่หมดนั้นเอง
คนรุ่นเก่าๆ เล่าว่า หลวงพ่อเหลือท่านเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจากับใครเท่าไหร่นัก กลางคืนท่านก็จะนั่งภาวนาของท่านด้วยการจุดเทียนหนึ่งเล่มในกุฏิ จากนั้นท่านก็นำเอาปลัดขิกมาวางที่หน้าเทียนแล้วภาวนาไปเรื่อยๆ จนครึ่งคืน (คาดว่าประมาณสองยามหรือเที่ยงคืน) แล้วเป็นพอ
มีคนเคยกล่าวว่า ตำราของการปลุกเสกเครื่องรางทุกชนิดนั้น ผู้ปลุกเสกต้องใช้คาถาภาวนาร่วมกันปลุกเสกจนกว่าเครื่องรางนั้นจะเคลื่อนที่เองได้ราวมีชีวิต สำหรับปลัดขิกของหลวงพ่อเหลือนั้นเมื่อปลุกเสกแล้วหลวงพ่อจะหยิบออกจากบาตรมาตัวหนึ่ง ครั้นรุ่งสางหลังจากบิณฑบาตแล้วท่านจะลองโยนลงไปในแม่น้ำ หากปลัดขิกนั้นไม่จมคือลอยน้ำได้ แล้ววิ่งทวนน้ำได้ เป็นอันว่าการปลุกเสกปลัดขิกชุดนี้เสร็จสมบูรณ์
:: ขอบพระคุณข้อมูลจาก พี่มล เชือกคาด ณ ที่นี้ด้วยครับ ::