ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,164 ผู้ชมทั้งหมด :43,974,293 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :7,867
เหรียญข้าวหลามตัดพระอินทร์ ทรงช้างเอราวัณหลังท้าวเวสสุวัณพระครูสุวรรณโชติวุฒิ(หลวงพ่อตี๋ ) ท่านเป็นศิษย์เอกที่รับการถ่ายทอดวิชาอาคมโยตรงจากหลวงพ่อกี๋อดีตเจ้าอาวาส วัดหูช้าง ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เหรียญนี้สร้างขึ้นเมื่อปี2556 มีอยูด้วยกันหลายเนื้ออาทิเช่นทองคำ,เนื้อนาก,เนื้อเงิน,เนื้ออัลปา ก้า,เนื้อทองแดง,เนื้อทองชนวนและเนื้อตะกั่วครับ สำหรับเนื้อนากนั้นมีจำนวนการสร้างที่น้อยมาก เพราะจำนวนการสร้างแค่ประมาณ 11 เหรียญ ส่วนเนื้อทองคำน่าจะประมาณ 39 หรือ 49 เหรียญครับแต่ผมไม่ขอคอนเฟอร์มเรื่องจำนวนของเนื้อทองคำน่ะครับ แต่สันนิฐานคราว ๆ ว่าน่าจะประมาณนี้ครับ เหรียญรุ่นนี้เรียกว่ารุ่นมูลนิธิสยามรวมใจ(ปู่อินทร์) สร้างโดยมูลนิธิสยามรวมใจ(ปู่อินทร์) เหรียญนี้มีการตอกโค๊ด สภาพสวยเดิม ๆ สวยกริ๊ปเหรียญนี้นัมเบอร์ 6 ในจำนวนทังหมด 11 เหรียญครับ เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีพิธีกรรมการสร้างดีมาก ๆ นอกจากนั้นฉนวนและมวลสารโลหะต่าง ๆ นั้นล้วนแล้วแต่หายากมาก ๆ อาทิตะกรุดเก่า ๆ พระเนื้อโลหะเก่า ๆ และอย่างอื่นอีกมากมายครับ เหรียญนี้ด้านหน้าเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวันซึ่งตำนานของพระอินทร์นั้น ท่านเป็นมหาเทพที่ยิ่งใหญ่เหนือชีวิตของมนุษย์และสรรพสัตว์มีหน้าที่ปกป้อง ดูแลโลกให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายต่างๆ เป็นผู้นำเหล่าเทพเจ้าไปกำจัดอสูรร้ายในหลายคราว พระอินทร์ ถือว่ามีอานุภาพสูงที่สุดในบรรดาเทพทั้งปวง สามารถดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆได้ เช่น บันดาลให้ฝนตกตามฤดูกาล ให้พืชพรรณงอกงาม เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดี และยังเป็นเทพเจ้าที่มีอำนาจสูงสุดในการบันดาลให้เกิดภัยทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝนตกหนัก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น้ำท่วม พายุอันรุนแรง พระอินทร์ มี วัชระ หรือ สายฟ้า เป็นศาสตราวุธคู่กาย วัชระนี้สามารถสร้างสายฝนและฟ้าผ่า ฟ้าร้องได้ เป็นศาสตราวุธของเทพเจ้าที่ทรงอำนาจเป็นอย่างมาก สามารถผ่ามหาสมุทรได้ สามารถผ่าภูเขาได้ สามารถผ่าท้องฟ้าได้ ระอินทร์สามารถแปลงกายได้สารพัด สามารถล่องหนไปปรากฎอยู่ที่ใดก็ได้ สามารถเนรมิตให้ร่างกายเล็กกระจิดอย่างมด หรือเนรมิตให้ร่างกายใหญ่โตมหึมาดั่งภูเขา าหนะของพระอินทร์มี 2 อย่าง คือ รถม้า และรถม้านั่นก็คือ พระอาทิตย์ นั่นเองและอีกอย่างคือ ช้างเอราวัณ หรือช้าง 3 เศียร (แต่เดิมมีถึง 33 เศียร)พระอินทร์เป็นมหาเทพที่ยิ่งใหญ่เหนือชีวิตของมนุษย์และสรรพสัตว์ มีหน้าที่ปกป้องดูแลโลกให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายต่างๆ เป็นผู้นำเหล่าเทพเจ้าไปกำจัดอสูรร้ายในหลายคราว ส่วด้านหลังนั้นเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ สำหรับตำนานขท้งท้าวเวสสุวรรณนั้นถือว่าท่านเป็นเจ้าหรือเป็นนายแห่งภูตผี ปีศาจทั้งหลายแล้วหรือที่พราหมณ์เรียกกันว่า ท้าวกุเวร สำหรับตำนานของท้าวเวสสุวัณนั้นท่านมีรูปร่างเป็นยักษ์ถือตะบองขนาดใหญ่ ด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งอสูร รากษส และภูตผีปีศาจ คนโบราณจึงมักทำรูปท้าวเวสสุวัณ แขวนไว้เหนือเปลเด็กอ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ภูตผีปีศาจมารบกวนเด็กเล็ก และนิยมทำผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) หรือจำหลักเป็นด้ามของมีดหมอที่สัปเหร่อใช้กำราบวิญญาณ เนื่องจากสมัยก่อนเวลาเผาศพก็ยกขึ้นกองฟอนแล้วใส่ไฟเผา พอร้อนเข้าเส้นเอ็นก็ยึดถึงขนาดลุกขึ้นนั่ง สัปเหร่อเลยต้องใช้มีดกรีดตามเส้นเอ็นก่อน ทีนี้พอยกขึ้นเผาศพก็จะไม่กระดุกกระดิก เลยเป็นความเชื่อว่ามีดหมอจำหลักรูปท้าวเวสสุวัณสามารถปราบผีได้ คติความเชื่อแบบไตรภูมิ เชื่อว่ามีท้าวโลกบาลประจำอยู่ 4 ทิศ จึงนิยมจำหลักอยู่ตามบานประตูโบสถ์ วิหาร เรียกว่า ทวารบาล หมายถึง ผู้ดูแลประตู บางครั้งพบทวารบาลบางแห่งเป็นแบบจีน แทนที่จะเป็นรูปเทวดาแบบไทยถือพระขรรค์ กลับเป็นเทวดาจีนคล้ายตัวงิ้ว ถือ หอก ดาบ หรือง้าว เหยียบอยู่บนสิงโตจีน เราเรียกว่า เสี้ยวกาง หรือ เซี่ยวกาง เข้าใจว่าเป็นอิทธิพลของจีนที่เข้ามาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่ หัว รัชกาลที่ 3 เนื่องจากพระองค์นิยมงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบจีน ท้าวจตุโลกบาลประจำทิศทั้งสี่จะประกอบด้วย ทิศตะวันออก พราหมณ์เรียก พระอินทร์ พุทธเรียก ท้าวธตรฐ มี คนธรรพ์ เป็นบริวาร ทิศตะวันตก พราหมณ์เรียก พระวรุณ พุทธเรียก ท้าววิรูปักษ์ มีนาค ครุฑ และเทวดา เป็นบริวาร ทิศใต้ พราหมณ์เรียก พระยม พุทธเรียก ท้าววิรุฬหก มี กุมภัณฑ์ เป็นยักษ์มีอัณฑะใหญ่เท่าหม้อตาลเป็นบริวาร และ ทิศเหนือ ได้แก่ ท้าวเวสสุวัณ พราหมณ์เรียก ท้าวกุเวร พุทธเรียก ท้าวไพสพ มี อสูร รากษส และภูตผีปีศาจ เป็นบริวาร นอกจากนี้ ในตำราโบราณและงานวรรณคดีกล่าวตรงกันว่า ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เป็นยักษ์ที่มีพัสตราภรณ์และผิวกายสีเหลืองทอง จิตใจดีงาม ดำรงอยู่ในสัตยธรรม ถึงขนาดอุทิศตนถวายพิทักษ์รักษาพุทธสถาน และองค์พระพุทธเจ้า เช่น รูปหล่อปิดทองด้านซ้ายของฐานองค์พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ก็ทำเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ส่วนด้านขวาเป็นยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อ อาฬาวกยักษ์ เหตุที่เรียกกันว่า ท้าวกุเวร เนื่องจากพระพรหมเห็นว่ามีรูปร่างไม่ดี ร่างกายพิการต้องถือไม้เท้า จึงตั้งชื่อให้ดังนั้น ที่บ้านเรามาจำหลักเป็นยักษ์ถือตะบองยันพื้น ก็คงจะมีเค้าเงื่อนมาจากเรื่องดังกล่าว ความหมายของชื่อ ท้าวเวสสุวัณ นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน บ้านเรารู้จักกันในชื่อ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หรือในชื่อ ธนบดี แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ ธเนศวร แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวง เทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือ จำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย ตถุมงคลที่นิยมทำเป็นรูปท้าวเวสสุวัณก็จะมีมากมาย อาทิ ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัณ) ของท่านเจ้าประคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นต้นครับ สอบถามรายระเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ 080-6090789หรือ087-4990901 คุณอ้วนครับ ***ยังมีสินค้าของเราอีกมากมายภายในร้านไว้บริการนักสะสมทุกท่านครับ ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง เหรียญที่ระลึกทุกยุค ทุกสมัย และพระหลักยอดนิยมตามมารตฐานสากลนิยมครับ เพียงทุก ๆ ท่านคลิ๊กเข้าไปที่คำว่า***ธนานนท์***ครับ