๙๙๙ เสือ หลวงพ่อนก วัดสังกะสี สององค์พระ ขนาด 2.5 นิ้ว (องค์ดารา ART of SIAM NO.24 องค์แถวหน้าสุด!!! ลงจารนะปัดตลอด ลงองค์พระในยันต์ตารางแปดทิศ)  /// เขี้ยวเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี จัดว่าเป็นเสือยอดนิยมอีกสำนัก ที่สืบเชื้อสายโดยตรงมาจากท่านปรมาจารย์สร้างเสืออันเลืองเลื่อ อันดับ 1 ของเมืองไทย  ปัจจุบันเสือหลวงพ่อนก รั้งตำแหน่ง เสือยอดนิยมอันดับ 3 ของเมืองไทย รองจากเสือหลวงพ่อปาน  วัดบางเหี้ย  จ.สุมทร ปราการ (อาจารย์หลวงพ่อนก) และเสือหลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน นครสวรรค์ เท่านั้น

       หลวงพ่อนก วัดนาคราช (วัดสังกะสี) อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ท่านอุปสมบทที่ วัดมงคลธาวาส (วัดบางเหี้ย)  โดยมี  หลวงพ่อปานพระอาจารย์ ผู้สร้างเสือ

เขี้ยวแกะ สุดยอดเครื่องรางอันดับ   1 ของเมืองไทยเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้ศึกษา พระธรรมวินัย วิปัสสนากรรมฐาน และเวทวิทยาคมโดยเฉพาะวิชาการสร้างเสือ จากหลวงพ่อปานรวมทั้งยังเป็นลูกศิษย์คนสำคัญที่คอยติดตามหลวงพ่อปานออกธุดงค์วัตรอยู่เป็นประจำ

       นอกจากนี้ท่านยังเป็นสหธรรมิกและได้แลกเปลี่ยนวิชากับหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก อีกด้วย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังท่านหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ  (เกิดเมื่อปี 2392 และมรณะปี 2475)

      หลวงพ่อนก ได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ได้แก่ เขี้ยวเสือหลวงพ่อนก (ส่วนใหญ่จะเต็มเขี้ยว แบบตัดปลายเขี้ยวก็เคยพบเหมือนกัน) ลูกอม เหรียญหยดน้ำ พระปิดตา ปลัดขิก ตะกรุดโทน ฯลฯ (เสือหลวงพ่อนกส่วนใหญ่เป็นเขี้ยวหมี ที่ทำจากเขี้ยวเสือมีน้อยมาก

         คุณวิเศษของเสือ... ดีทางมหาอำนาจ  หากินเก่งหากินคล่องไม่ฝืดเคืองเรื่องอาหาร เมตตามหานิยมในตัว แคล้วคลาาด คงกระพันชาตรี มหาอุด เรียกได้ว่าครบเครื่อง รวมทุกสรรพวิชาความขลังไว้เป็นอันดับหนึ่งหนึ่งเดียว ///

ศิลปะในการแกะเสือ 

และเอกลักษณ์ในการพิจารณา

“อัาปาก ตากลม หูตั้ง บั้งหน้าขน”

      เขี้ยวแกะเสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี เป็นเขี้ยวเสือแกะที่มีคามเก่า รูปแบบสวยงาม และมีเอกลักษณ์โดดเด่น เฉพาะตัว อีกทั้ง หลวงพ่อนกนั้น ก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน  ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำเสือ จนได้รับคำมเชยจากหลวงพ่อปานว่า ทำได้ขลัง และวิเศษในคุณเหมือนของท่านมาก

    อย่างไรก็ดี หากจะยึดเอาเสือที่มีรูปแบบการสร้างและศิลป์ได้รับการยอมรับเป็นสากลมาเป็นต้นแบบสำหรับศึกษา คงต้งยกให้ เสือหลวงพ่อนก องค์ครูของ ด.ต.อัมพร อินทร์ไทร ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์อ่างทอง ซึ่งครองแชมป์ทุกครั้งในทุกสนามที่ลงประกวด มาเป็นองค์ครู เมื่อพจารณาศิลป์ของเสือหลวงพ่อนก ตามแบบของเสือองค์ครูนี้ จะพบว่า มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ซึ่งเขี้ยวเสือในศิลป์ ดังกล่าว ก็ได้รับการยอมรับและลงในหนังสือเครื่องรางยอดนิยม เล่มมาตรฐานของวงการในหลายๆ เล่มด้วยกัน

     เสือหลวงพ่อนก มีศิลป์การแกะหน้าเสือที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม เหมือนเสือตัวจริง ดังวลีคำย่อที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ได้อย่างชัดเจนคือ “อัาปาก ตากลม หูตั้ง บั้งหน้าขน” นอกจากนี้อีกสิ่งที่จะพบเห็นในการลงจาร ในตัวเขี้ยวเสือ คือ การจารองค์พระ (บางคนเรียกยันต์ตุ๊กตา มีสองแบบ คือ องค์พระแบบเศียรแหลมจะพบมากกว่า และองค์พระแบบเศียรกลม) ซึ่งแม้วาจะไม่ใช่จุดที่จะต้องถือเป็นจุดตายที่แน่นอน แต่ก็พบเป็นส่วนมากที่จะมีจารองค์พระ ตั้งแต่ 1-8 องค์ แล้วแต่รูปแบบของการแกะเขี้ยวเสือ และพื้นที่การวางอักขระเลขยันต์ของเสือแต่ละตัว ซึ่งจะไม่เหมือนกัน และไม่ซ้ำกันโดยทั่วไป เขี้ยวเสือที่มีจารองค์พระจะได้รับความนิยมกว่าที่ไม่มี ยิ่งจารองค์พระมาก ยิ่งนิยมมาก สนนราคาก็แพงเพิ่้มมากขึ้นเช่นกันครับ

สาระน่ารู้ในการแยกแยะ เขี้ยวเสือ กับ เขี้ยวหมี

      ผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่าให้สังเกตุว่า เขี้ยวหมีนั้นรูปทรงจะมีโคนเขี้ยวอ้วนป้อม เมื่อถึงส่วนเขี้ยวจะเว้าเข้าในมาก และมีเส้นเลือดเป็นลายเหมือนวงแหวนในตัวเขี้ยว ในขณะที่ถ้าเป็นเขี้ยวเสือนั้น รูปทรงจะชลูดยาว ลายเส้นเสือดเป็นวงแหวนในตัวเขี้ยวจะไม่ชัดหรือมากเท่าเขี้ยวหมี และจะปรากฎร่องเลือดในตัวเขี้ยว ซึ่งถ้าเป็นเขี้ยวหมีจะไม่ีมี (ดูรูปภาพประกอบ)

      นอกจากนี้ ยังปรากฎที่มีพิเศษอีกก็คือ ในการแกะตัวเขี้ยวเสือ ยังมีการแกะหน้าแบบเสือเหลียว ซึ่งจะหายาก มีน้อยและได้รับความนิยมกันว่า จะเด่นพิเศษด้านเมตตา มหานิยมเพิ่มเป็น พิเศษอีกด้วย การแกะลายที่ฐานเขี้ยวเสือ ที่พบโดยส่วนมาก สามารถแยกได้ 4 แบบ คือ ฐานฟันปลาแกะเป็นชั้นๆ มีแบบฟันปลาเล็ก, และฟันปลาใหญ่, ฐานฟันปลาหัวลูกศร (แบบนี้พบน้อยกว่าแบบอื่นๆ), และสุดท้ายเป็นลายตารางหมากรุก มีจุดในตาราง นอกจากนี้ยังมีการนำลายหลายอย่างมารวมกัน และยังมีแบบพิเศษอีกด้วย

๙๙๙