ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,188 ผู้ชมทั้งหมด :41,555,699 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :1,167

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
แหวนพิรอด9ยอด หลวงพ่อหรุ่น สวยสมบูรณ์ หายากมากๆ
ราคา :
โชว์
รายละเอียด :
@>>>หรุ่น ใจภารา อดีตเสือใหญ่แห่งเมืองเชียงราก ในขณะที่ครองสมณเพศทั้งชีวิตท่านสร้างวัตถุมงคลแค่ ๔ชนิดคือ
๑.เหรียญรูปใข่ครึ่งองค์
๒.ตะกรุดโทน ยาวประมาณ ๒องคุลีนิ้ว (ประมาณ ๕-๖นิ้วฟุต)
๓.ตะกรุดกระดูกห่านจารอักขระขอม ยาวประมาณ ๑องคุลีนิ้ว (ประมาณ ๒นิ้วครึ่ง-๓นิ้วฟุต)
๔.แหวนพิรอดเก้ายอด  ของมงคลทุกอย่างที่เอ่ยมาของท่านสร้างไว้น้อยมากๆ
 
•••••คำว่า ๙ ยอด คือ
 
ยอดของยันต์ ที่มีความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆ ๙ ทาง ดังจะผูกเป็นวลี ๙ ทางดังนี้
 
ชาตรี - แคล้วคลาด - กันภัย - มหาระงับ - ดับทุกข์ - สุขล้น - พ้นสงสาร - การงานรุ่ง 
 
พยุงดวง 
 
ยอดที่ ๑ ชาตรี : โดนของหนัก ของเบา ของแหลม ของคม ไม่ระคายผิว
 
ยอดที่๒ แคล้วคลาด : ศัตรูหมู่มารเหตุเพศภัยอันใดแคล้วคลาดผ่านพ้นจากเราไปหมด
 
ยอดที่๓ กันภัย : ภัยจากทิศทั้ง ๔ บนบก บนน้ำ บนอากาศ ทำอันตรายเรามิได้
 
ยอดที่๔ มหาระงับ : ดับเรื่องร้อนเลวร้ายขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นความเป็นคดีระงับดับหมดทุกเรื่อง
 
ยอดที่๕ ดับทุกข์ : ทุกข์ภัยที่เกิดกับตัวลำบากยากจนหน้าดำคล้ำหมอง หายจืดจางไป
 
ยอดที่๖ สุขล้น : ทวีความผาสุก เกษมสำราญ ทั้งสุขภาพจิต สุขภาพใจ
 
ยอดที่๗ พ้นสงสาร : จิตเกาะเกี่ยวกับธรรมคุณความดีงามละชั่วประพฤติเลว ทำดีตลอดไป
 
ยอดที่๘ การงานรุ่ง : หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า เจ้านายรักลูกน้องหนุน เพื่อนร่วมงานดี
 
ยอดที่๙ พยุงดวง : แก้ทุกข์ภัยจากการกระทำของดวงตก ดวงไม่ดี เคราะห์เวรกรรม บรรเทาลงโดยพลัน
 
•••••เมื่อทราบถึงวลีคำ ๙ ยอดแล้ว มาลองฟังประวัติของท่านกัน
ในปี พ.ศ. ๒๔๒๕  ชื่อของเสือหรุ่นก็ปรากฏขึ้นโดยปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์นับร้อยราย
ตลอดทุกตำบลในอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง   เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถปราบได้
เพราะเสือหรุ่นผู้นี้ แก่กล้าวิชาอาคม   สามารถผูกหุ่นลวงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงและจับมา
นับครั้งไม่ถ้วน   
นายอำเภอจังหวัดอยุธยา  ได้ปิดประกาศไปทั่ว  ให้เสือหรุ่นเข้ามาพบเพื่อเข้ารับราชการ
โดยทางการจะไม่เอาผิด   เมื่อเสือหรุ่นได้ทราบ จึงเดินทางเข้ามา  แต่เสือหรุ่นติดกับเสียแล้ว
นายอำเภอได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยรายล้อมไว้และตะโกนบอกให้เสือหรุ่นยอมมอบตัว
ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะระดมยิง  
เมื่อเสือหรุ่นรู้ตัวว่าถูกลวง ก็นึกแค้นใจนายอำเภอเป็นที่สุด แต่ก็มิได้สะทกสะท้านอย่างใด
รวบรวมใจเป็นสมาธิแล้วภาวนาคาถาที่ร่ำเรียนมาผูกเป็นหุ่นลวงตา หนีฝ่าวงล้อมไปได้
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา  เสือหรุ่นก็ได้ปล้นฆ่าหนักยิ่งขึ้น  ครอบครัวที่ถูกปล้นจะถูกฆ่าตาย
ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว…..
 
•••••จนกระทั่งเจ้าเมืองอยุธยาเห็นว่ายากที่จะปราบเสือหรุ่นได้อีกต่อไป   จึงเขียนประกาศด้วยตัวเองให้เข้าพบเพื่อเจรจาเข้ากลับตัวกลับใจ
เสือหรุ่นได้ทราบข่าว แต่ไม่ไว้ใจเพราะเคยถูกหักหลังมาแล้ว  จึงมีหนังสือถึงท่านเจ้าเมือง
ให้ออกมาพบเพียงคนเดียว  ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ  เวลา ๒ ทุ่มตรง ที่ลานนวดข้าวหลังโรงสี
เมื่อถึงเวลา ท่านเจ้าเมืองมายืนรอก่อน  เสือหรุ่นจึงออกมาจากพุ่มไม้เข้าพบ
ท่านเจ้าเมืองพูดขึนว่า '' หรุ่นเอ๊ย  สิ่งใดที่ผ่านมาก็ขอให้ลืมเสีย  จงกลับตัวกลับใจเสียเถิด
บ้านเมืองยังต้องการคนดีมีฝีมืออยู่  ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นกำนันปกครองคนในตำบลเชียงรากบ้านเดิม
ต่อไป ''
นับจากนั้นมา เสือหรุ่นก็เข้ารับราชการ ทำความดีความชอบมาตลอด  3 ปี  จนได้รับพระราช
ทานยศเป็น  '' ขุนภาวิจล   ใจภารา ''
 
•••••แต่กรรมเวรไม่หมดสิ้น  เสืออุ่น ลูกน้องคนสนิทครั้งเป็นเสือร้าย ไม่พอใจที่เสือหรุ่นเข้ารับราช
การ  ได้ออกปล้นฆ่าโดยใช้ชื่อเสือหรุ่นตลอดหลายสิบครั้ง  เมื่อถูกจับได้ก็ซัดทอดว่าเสือหรุ่น
อยู่เบื้องหลังการปล้นทุกครั้ง   "ท่านเจ้าเมืองอยุธยา จึงได้ทำหนังสือ ให้ขุนภาวิจลเข้าพบเพื่อไต่สวน"
กำนันหรุ่นไตร่ตรองแล้วเห็นว่ายากที่จะพ้นมลทิน  จึงหนีไปบวชที่วัดลำลูกกา ถึงสามพรรษา
เมื่อเรื่องราวเงียบหายไป  ท่านจึงย้ายมาประจำอยู่ที่วัดอัมพวัน  เขตดุสิต  กรุงเทพมหานคร
ในช่วงเวลานั้นมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย  เพราะกิติศัพย์ยันต์เก้ายอดอันลือชื่อ   กล่าวกันว่า
ในยุคนั้น  ไม่มีใครดังใครเหนียวเท่าก๊ก '' เก้ายอด ''
 
•••••ซึ่งในยุคนั้นเมืองกรุงเทพ หรือจังหวัดพระนครในสมัยนั้น มีก๊กนักเลงอยู่หลายก๊กด้วยกัน ที่ขึ้นชื่อก้อมี ลูกศิษย์หลวงพ่อโม วัดสามจีน (วัดไตรมิตรวิทยาราม) มีถิ่นอยู่แถวเยาวราช - วงเวียน ๒๒กรกฎา แถววรจักร ก้อมีศิษย์หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร บางขุนพรม มีอาวุธประจำกายคือ ไม้ตะพดของหลวงปู่ภู หรือที่เรียกว่านิ้วเพชรพระอิศวร ว่ากันว่าหากใครโดนหัวไม้ตะพดตีนั้น อาจถึงแก่ชีวิต หลวงปู่ภูท่านจึงบอกศิษย์อยู่เสมอว่าอย่าใช้หัวไม้ตีใคร มันจะบาปตัวท่านเองด้วย
และที่ขึ้นชื่อลือชาด้านความเหนียวอยู่ยงคงกระพันไม่เป็นสองรองใครก็คือ แก๊งเก้ายอด ลูกศิษย์ของหลวงพ่อหรุ่น ใจภารา วัดอัมพวัน ราชวัตร กรุงเทพมหานคร หลวงพ่อหรุ่นท่านสำเหร็จเรื่องยันต์เก้ายอด และมั๊กสักยันต์เก้ายอดให้แก่ศิษย์ ต่อมาภายหลังจึงใด้มอบวิชานี้ให้กับอาจารย์ภู่ ซึ่งถือว่าเป็นศิษย์เอกที่ใด้รับวิชาสักนี้ไป หลวงพ่อหรุ่นท่านมีบุตรชายคนโตชื่อ นายเสงี่ยม ใจภารา มีตำแหน่งเป็นทหารม้ารักษาพระองค์ภายหลังใด้เป็นมหาดเล็กใน เสด็จเตี่ย (พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) สมัยก่อนแก๊งเก้ายอดนี้มีถิ่นอยู่แถวนางเลิ้ง ไปจนถึงดุสิต  เรื่องราวเล่าขานของเสือหรุ่นหรือหลวงพ่อหรุ่นเก้ายอดเป็นที่น่าเกรงขาม แม้แต่เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรฯ ยังทรงยกย่องยอมรับ พอเลิกจาการเป็นเสือได้หันหน้าเข้าหาพระธรรม ตอนหลังเป็นพระอาจารย์ชื่อดังขึ้นชื่อเรื่องการสักยันต์เก้ายอดให้ลูกศิษย์ ใครที่มียันต์เก้ายอดติดกายเข้ารณรงค์สงครามลูกปืนมาเป็นห่าฝน มีดดาบคมกริบไม่เคยระคายผิว.
หลวงพ่อหรุ่นมรณภาพ ปี ๒๔๗๑  สิริอายุ  ๘๑  พรรษาที่ ๓๕
 
ขอบคุณข้อมูลจาก พี่วัต ท่าพระจันทร์
 
เบอร์โทรศัพท์ :
0869933889
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด