ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :252 สินค้าทั้งหมด :11,085 ผู้ชมทั้งหมด :40,272,745 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :3,452

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
กับผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่ทิมอิสริโก วัดระหารไร่ ปี 2517 รุ่นแรก และเป็นผ้าขาวหมึกน้ำเงิน(นิยม)
ราคา :
45,000.-
รายละเอียด :
ต้องยอมรับเลยว่าเป็น 1 ใน ผ้ายันต์ที่หายากที่สุด เพราะสะสมมา20ปี พึ่งได้ครอบครอง กับผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่ทิมอิสริโก วัดระหารไร่ ปี 2517 รุ่นแรก และเป็นผ้าขาวหมึกน้ำเงิน(นิยม) ผ้ายันต์พัดโบก(ผ้าโบกสาว)รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีประสบการณ์ตั้งแต่ตอนหลวงปู่ คือ หลวงปู่เสก จนผ้ายันต์บินว่อนในพิธีคนต่างแย่งกันใครมีต่างเก็บเงียบไม่ค่อยพบว่า มีการเปลี่ยนมือออกตัวกัน
ต่อมาในปี2518 คุณชินพรได้สร้างอีกครั้งเป็นผ้ายันต์พัดโบกสีแดง เป็นรุ่น2 ซึ่งถือว่าเป็นผ้ายันต์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่และได้รับความนิยมมากเช่นกัน
ประวัติเกี่ยวกับ ผ้ายันต์พัดโบก หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ผ้าโบกสาวนี้ เป็นวิชาสำคัญวิชาหนึ่งของหลวงปู่ทิม ผ้ายันต์พัดโบกนี้ ท่านร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อ กราด วัดซากกอไผ่ หลวงปู่ทิมท่านเล่าว่าเมื่อบวชได้พรรษาแรกก็ไปขอเรียนแล้ว เหตุที่ท่านไปขอร่ำเรียนวิชา ยันต์โบกสาวจากหลวงพ่อกราด วัดซากกอไผ่ ก็เพราะสมัยที่หลวงปู่ทิม รับใช้ชาติเป็นทหารอยู่นั้นได้รู้จักเพื่อนทหารคนหนึ่งซึ่งมีพื้นเพอยู่บ้านค่าย เพื่อนคนนี้พกยันต์โบกสาวหลวงพ่อกราด วัดซากกอไผ่ ผืนหนึ่งติดตัวตลอดโดยได้รับก่อนเข้ารับราชการทหาร หลวงพ่อกราดให้ไว้เพื่อให้แคล้วคลาด ป้องกันอันตรายและเป็นเมตตามหานิยม
หลวงปู่ทิมท่านเล่าว่าคนหนุ่มสมัยท่านนั้นสนใจวิชาเมตตามหานิยมมาก เมื่อคุยกันถึงเรื่องนี้เพื่อนของท่านซึ่งเป็นคนแถวๆวัดซากกอไผ่ ก็ควักผ้ายันต์ของหลวงพ่อกราด ออกมาอวดและบรรยายสรรพคุณให้ฟังว่ามีอานุภาพโบกสาวให้ตามมาได้ หลวงปู่ทิม ท่านบอกไม่เชื่อต้องทดลองให้ดู
เพื่อนทหารร่วมกองร้อยของท่านก็สำแดงวิชา ผ้าโบกสาวของหลวงพ่อกราด ให้ดู โดยทหารผู้นี้หมายปองลูกสาวชาวบ้านใกล้ๆกองพันที่ประจำอยู่ เป็นสาวหน้าตาดี และทหารเพื่อนหลวงปู่ทิม ผู้นี้เคยไปคุยไปจีบมาบ้างแล้ว ผู้หญิงไม่เล่นด้วย ซ้ำยังด่าเอาเจ็บๆ เพื่อนทหารของหลวงปู่ทิมบอกว่า “เมื่อกูปลดทหาร กูจะพาสาวคนนี้กลับบ้านค่ายด้วย ให้คอยดู และก็เป็นอย่างที่ทหารเพื่อนหลวงปู่ทิมพูด เมื่อวันปลดทหารจากกองประจำการกลับภูมิลำเนาเดิม คือกลับบ้านค่ายหญิงสาวคนนั้นก็หอบผ้าหอบผ่อนตามพลทหารเพื่อนหลวงปู่ทิมผู้นั้นมาด้วย และหลวงปู่ทิม ท่านก็ปลดทหารพร้อมกัน
วิชาที่หลวงปู่ทิม ได้เห็นมากับตาก็คือ อานุภาพผ้าโบกสาวของหลวงพ่อกราด วัดซากกอไผ่ซึ่งเพื่อนทหารท่านเคยสำแดงให้ดูจนลูกสาวชาวบ้านทิ้งคันไถหอบเสื้อผ้าตามกลับบ้านค่าย เมื่อหลวงปู่ทิมบวชแล้ว ท่านไปหาหลวงพ่อกราดถึงวัดซากกอไผ่ฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอร่ำเรียนวิชาพัดโบก แต่หลวงพ่อกราดได้ไล่หลวงปู่ทิมออกจากวัด และปฏิเสธว่าวิชาพัดโบกอะไรนั้นกูไม่มีหรอกมึง กลับไปเถอะ หลวงปู่ทิมเล่าว่าแม้จะถูกด่าและตวาดด้วยเสียงอันดังท่านก็ทำเฉยเสีย และนั่งรออยู่ใกล้ๆหลวงพ่อกราด เมื่อหลวงพ่อกราดหยุดด่าก็คว้าเขียงกัญชาขึ้นมาและหากัญชามาหั่นเพื่อจะสูบ หลวงปู่ทิมเล่าว่า ก่อนที่จะมาหาหลวงพ่อกราด ท่านศึกษาอุปนิสัยใจคอของหลวงพ่อกราดจากเพื่อนของท่านมาก่อนแล้วว่าหลวงพ่อกราดเป็นพระปากร้าย ดุด่าไม่เลือกหน้า และชอบสูบกัญชา,ดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจจนเป็นที่ครหาของคณะสงฆ์ แต่ชาวบ้านแถวๆ วัดซากกอไผ่ ถือเป็นเรื่องธรรมดาและให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อกราดไม่เสื่อมคลาย เมื่อหลวงพ่อกราดหยุดด่าและคว้าเขียงกัญชาขึ้นมาเพื่อจะหั่นกัญชาสูบ ขณะที่มองหาห่อกัญชาอยู่นั้น หลวงปู่ทิมท่านก็หยิบห่อกัญชา ซึ่งท่านเตรียมไว้และใส่ย่ามติดตัวมาด้วยออกมาให้หลวงพ่อกราด หลวงพ่อกราดก็คว้าเอาไปหั่นและยัดใส่บล้องกัญชา และจุดไฟสูบกัญชานอนเอกเขนก อารมณ์ท่านค่อยๆดีขึ้น หลวงปู่ทิมท่านเล่าว่าเมื่อเห็นหลวงพ่อกราดอารมณ์ดีแล้วท่านก็คลานเข้าไปหาอีกและเอ่ยปากฝากตัวเป็นศิษย์ เมื่อหลวงพ่อกราดซักไซร้ไล่เรียง ถึงพ่อแม่เถือกเถาว์เหล่ากอแล้ว หลวงพ่อกราดท่านก็ตกลงรับหลวงปู่ทิมไว้เป็นศิษย์และถ่ายทอดเคล็ดลับการลงอักขระเลขยันต์ และการปลุกเสกผ้ายันต์พัดโบกให้แก่หลวงปู่ทิม อย่างไม่ปิดบังอำพราง
การสร้างผ้ายันต์โบกสาวหรือผ้ายันต์พัดโบกสาวของหลวงปู่ทิมในยุคแรกๆ แต่ก็ห่างจากวัยที่ร่ำเรียนมาหลายสิบปี จวบจนอายุท่านกว่า ๗๐ ปี ท่านจึงได้ทดลองทำ ท่านจะทำอย่างพิถีพิถันทำให้ถูกต้องตามตำราที่ร่ำเรียนมากับหลวงพ่อกราด วัดซากกอไผ่ กล่าวคือ ต้องแสวงหาวัสดุอาถรรพณ์หลายชนิดมาผสมกับหมึกที่จะเขียนอักขระเลขยันต์ ประการแรกก็คือ ต้องหา ว่านขมิ้นขาว ว่านดอกทอง และไม้แยงแย้ มาผสมกับหมึกที่จะใช้เขียนอักขระเลขยันต์โดยเอาไม้แยงแย้คนแล้วนำปากกามาจุ่มหมึกเพื่อลงอักขระในผ้าเสร็จแล้วจึงนำมาปลุกเสก ปรากฎว่าผ้ายันต์พัดโบกหรือผ้าโบกสาว ซึ่งหลวงปู่ทิมทำขึ้นตามตำราของหลวงพ่อกราด วัดซากกอไผ่มีชื่อเสียงมาก แต่น่าเสียดายว่าท่านทำได้เพียงครั้งละไม่กี่ผืน จวบจนเมื่อหลวงปู่ทิม ย่างเข้าสู่วัยชราจนมีอายุ ๙๐กว่าปี ท่านจึงสั่งให้ทำผ้ายันต์พัดโบกสีขาว แบบพิมพ์รุ่นแรก ขึ้นในงานผูกพัทธสีมาของวัดละหารไร่ปี ๒๕๑๗
เครดิตข้อมูล : ขอบขอบคุณ คุณชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์ครอบครูหลวงปู่ทิม 080-1259886 แดนเชียงใหม่ซื้อด้วยความเข้าใจขายด้วยความรับผิดชอบ
ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
080-1259886
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด