ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,188 ผู้ชมทั้งหมด :41,551,833 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :1,743

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
"อนันตะซุง" เล่นแร่แปรธาตุยุคเก่า เมืองพม่า-ไทยใหญ่
ราคา :
ขายแล้ว
รายละเอียด :

"อนันตะซุงธาตุลุง" เล่นแร่แปรธาตุยุคเก่า เมืองพม่า-ไทยใหญ่

ทางพม่าเรียก”ดาหล่อง” ชิ้นนี้อายุไม่น้อยกว่า70ปี

มีเศษพลอยทับทิมติดที่เนื้อธาตุลุง สวยงามแปลกตา

ขนาดเม็ด9cm. เลี่ยมทองพร้อมใช้ครับ

------------------------------------------------------------- 

**ขอลงบทความเรื่องเล่าจากพระอาจารย์อภิวัฒน์ให้อ่านกันดูนะครับ**

**วิธีการสร้างอัคคียะธาตุ ในวิธีที่๒ที่เคยกล่าวมาแล้วและรับปากว่าจะนำมาเล่าสำหรับท่านที่สนใจติดตามได้อ่านกันเล่นๆ ซึ่งในการเขียนบทความนี้ข้าพเจ้าเขียนตามตำราและวิธีของชาวไทยใหญ่ที่เคยพอได้ศึกษาและอ่านผ่านตามาบ้างในเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุของชาวไทยใหญ่(ที่เคยทำความเข้าใจมาเท่านั้น ซึ่งก็คงมีวิธีอีกหลายๆแบบที่ข้าพเจ้าไม่เคยอ่าน ไม่เคยทำความเข้าใจต้องขออภัยถ้าเขียนผิดพลาดไปครับ) ตำราการเล่นแร่แปรธาตุหรือที่เรียกกันว่า อัคคียะกยามหรือตำราอัคคียะ ชื่อก็บอกตรงตัวอยู่แล้วว่าอัคคีคือไฟแปลตรงตัวง่ายๆก็คือธาตุที่สำเร็จมาจากไฟนั่นเอง วิธีที่๒ที่จะนำมาเล่าเขามีวิธีการดังต่อไปนี้ ขั้นตอนแรกคือแสวงหาวัตถุที่เป็นทองเหลือง ทองแดง ทองสำริด เงิน ทองคำ ตามมาตราส่วนที่กำหนดไว้คือทองเหลือง5กก. ทองแดง5 กก. เงิน 2 กก.และทองคำ 150 g.(อาจจะไม่ถูกต้อง อย่าทำตามที่ผมว่านะครับ) โลหะทั้ง๔ชนิด มักจะเป็นวัตถุที่มีอาถรรพ์หรือกายสิทธิ์ในตัวเองก่อนเช่น ทองขวานฟ้า ทองคำผีแมน แท่นพระชำรุด ทองแดงก้นหม้อฯลฯ นำโลหะทั้งหมดมาตะไบหยาบๆแล้วนำบรรจุในไหที่บรรจุด้วยว่านพิษหลายๆชนิด ไขวัว เนื้อวัว เนื้อควาย ไขควาย ฯลฯแล้วจึงนำไปฝังไว้ในที่ๆมีน้ำครำหรือมีน้ำตลอด เมื่อโลหะกินพิษจนอิ่มหนำดีแล้วเป็นเวลา 6เดือนเมื่อเวลาเปิดไหน้ำที่ดองต้องมีวรรณะดังรุ้งกินน้ำ ถึงจะนำออกมาถลุงอีก28ไฟ28รอบ(ตอนนี้ถึงจะนำปรอทผสม) เมื่อสำเร็จเทเป็นก้อนเป็นเม็ดเล็กๆแล้วก็นำไปต้มด้วยว่านยาสมุนไพรเช่นว่านต่งคืม ว่านสอด ว่านกาเผือก ว่านจักจ่าวะเต มังแข เข่งปานฯลฯเป็นต้น ตามตำราเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ ด้วยไฟอ่อนๆให้พอเดือดไม่ขาดถึง3ราตรีซึ่งบางทีก็ระเบิดหายไปเสียก็มี เมื่อสำเร็จแล้วจึงนำไปปลุกเสกอีกถึง ๗ สถานที่จึงจะสำเร็จเป็นปะตาอัคคียะหรืออนันตะซุงธาตุ ที่เราๆเห็นกันอยู่นั้นเองครับ เชื่อกันว่าสามารถคุ้มดวงชะตาที่กำลังจะตกต่ำให้ดีขึ้น ทั้งยังเป็นเครื่องรางป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสย์ทั้งปวง อำนวยผลด้านความสำเร็จสมปรารถนาในหน้าที่การงาน ให้มีโชคลาภวาสนา มียศมีตบะเดชะอำนาจเป็นต้น ส่วนมากเครื่องรางที่ปรากฏในรูปแบบปรอทสำเร็จมักมีอิทธิคุณในตัว เคยได้ยินคนไทยใหญ่ที่พกพาเล่าว่าเคยเห็นอัคคียะธาตุนี้เรืองแสงเองได้บ้าง หายไปเองได้บ้าง ซึ่งก็น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง....... 

**วิธีใช้**

1.ควรนำไปทำเป็นแหวนให้สัมผัสกับร่างกาย สวมใส่เวลานอนหลับ สามารถขับไล่พิษร้ายที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย ออกไปทำให้ นอนหลับสบาย ตื่นมาด้วยความสดชื่น 

2.ป้องกันสิ่งอัปมงคล ภูตผีปีศาจร้าย อันตรายทั้งปวงไม่ให้มากร้ำกรายราวีเรา 
3.ปรับสมดุลธาตุทั้ง๔ในร่างกายให้สม่ำเสมอ ไม่เจ็บป่วยง่าย 
4. เสริมดวงชะตาราศรี เวลาดวงชะตาขึ้น ธาตุลุงคำนี้จะสุกใสเปล่งประกายทอง เวลาดวงตกเคราะห์ร้าย ธาตุฯนี้จะหม่นหมองคล้ำดำลง ให้นำไปแช่น้ำส้มป่อยอาบ แล้วควรทำบุญสะเดาะเคราะห์เสีย จะดีแล 
5.เวลาจะเดินทางไปไหน ให้นำน้ำหอมมาพรมมาทาตรงลูกธาตุลุงคำนี้ แล้วอธิษฐาน จะสมดั่งใจเราแล เมื่อบูชาธาตุลุงคำนี้ ควรไหว้พระสวดมนต์อยู่เสมอ หรือสวดบทพระพุทธคุณ อิติปิโสวันละ 3รอบ จะดียิ่งๆขึ้นไปอย่างมากแลฯ

บทความทั้งหมดนี้เขียนโดย : พระอภิวัฒน์ อินฺทวณโณ วัดทุ่งโป่งเมืองปาย 20/สค/61เพื่อการเผยแพร่เกียรติคุณครูบาอาจารย์ผู้สร้างธาตุอัคคียะทุกท่านครับ

ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
087-1120506
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด